พระราชประวัติ ของ พระเจ้าคนุตที่_5_แห่งเดนมาร์ก

เจ้าชายคนุตประสูติราวปี ค.ศ. 1129 เป็นพระโอรสในพระเจ้ามักนุส ผู้แข็งแกร่งแห่งสวีเดนซึ่งเป็นพระราชโอรสในพระเจ้านีลส์แห่งเดนมาร์ก หลังจากการสละราชบัลลังก์ของพระเจ้าอีริคที่ 3 แห่งเดนมาร์กในปีค.ศ. 1146 เหล่าขุนนางในคาบสมุทรจัตแลนด์ประกาศให้เจ้าชายคนุตเป็นพระมหากษัตริย์ ในขณะที่ขุนนางในเกาะเชลลันด์และสคาเนียประกอบพิธีราชาภิเษกให้พระเจ้าสเวนที่ 3 แห่งเดนมาร์ก[2] ซึ่งเป็นโอรสนอกสมรสของพระเจ้าอีริคที่ 2 แห่งเดนมาร์กและเป็นพระนัดดาของเจ้าชายคนุต ลาวาร์ด ซึ่งถูกพระเจ้ามักนุส ผู้แข็งแกร่งปลงพระชนม์ในปีค.ศ. 1131[1]

ในปีถัดมา กษัตริย์คนุตที่ 5 ทรงพยายามอย่างไร้ผลในการเอาชนะกษัตริย์สเวนที่ 3 บนเกาะเชลลันด์ในความพยายามควบคุมเดนมาร์กทั้งหมด ในปีค.ศ. 1147 กษัตริย์คนุตและกษัตริย์สเวนร่วมมือกันต่อสู้ในสงครามครูเสดชาวเวนด์ ซึ่งจบลงด้วยการจุดชนวนความขัดแย้งอีกครั้ง[3] กษัตริย์สเวนและญาติของพระองค์คือ ดยุกวัลเดมาร์ ซึ่งเป็นพระโอรสของเจ้าชายคนุต ลาวาร์ด ได้รับชนะกษัตริย์คนุตในจัตแลนด์ในปีค.ศ. 1150 กษัตริย์คนุตทรงหลบหนีไปพึ่งพระเจ้าสแวร์เกอร์ที่ 1 แห่งสวีเดน กษัตริย์คนุตจึงพยายามยึดดินแดนคืน แต่ล้วนไม่ประสบความสำเร็จ และทรงหันไปพึ่งจักรพรรดิฟรีดริชที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยเหลือพระองค์ ทำให้เกิดการประนีประนอมในปีค.ศ. 1152 ซึ่งสนับสนุนโดยดยุกวัลเดมาร์ ทำให้กษัตริย์คนุตได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้สำเร็จราชการร่วมกับกษัตริย์สเวน แต่เป็นผู้สำเร็จราชการชั้นผู้น้อย แต่สุดท้ายกษัตริย์สเวนก็ไม่ทรงยอมรับข้อตกลง[3]

ภาพวาดการสวรรคตของกษัตริย์คนุดที่ 5 ศตวรรษที่ 13 ปรากฎในซัคซิสเชอ เวลท์โครนิก

กษัตริย์คนุตทรงเป็นพันธมิตรกับดยุกวัลเดมาร์และกษัตริย์สแวร์เกอร์แห่งสวีเดน สวีเดนได้มอบเจ้าหญิงเฮเลนาแห่งสวีเดน พระราชธิดาให้เป็นพระมเหสีของกษัตริย์คนุตที่ 5 กษัตริย์สเวนจึงหลบหนีออกจากเดนมาร์กในปีค.ศ. 1154 และกษัตริย์คนุตทรงทำข้อตกลงกับดยุกวัลเดมาร์ และแต่งตั้งให้พระองค์เป็นพระประมุขร่วม กษัตริย์คนุตจึงกลายเป็นกษัตริย์พระองค์รองของกษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 1 แห่งเดนมาร์ก[3] และหลังจากที่กษัตริย์สเวนเสด็จกลับเข้ามาในเดนมาร์ก จึงเกิดการประนีประนอมครั้งสุดท้ายในปีค.ศ. 1157 ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้แรงกดดันของเหล่าขุนนางเดนมาร์ก[2] กษัตริย์สเวนที่ 3 กษัตริย์คนุตที่ 5 และกษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 1 จึงจัดตั้งระบบพระประมุขร่วม โดยกษัตริย์คนุตได้ปกครองเกาะเชลลันด์[3] ระหว่างการจัดงานเลี้ยงประชุมสันติภาพที่รอสกิลด์ในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1157 ต่อมาถูกเรียกว่า "งานเลี้ยงเลือดที่รอสกิลด์" กษัตริย์สเวนพยายามวางแผนปลงพระชนม์กษัตริย์คนุตและกษัตริย์วัลเดมาร์[2] มีการอ้างว่า กษัตริย์คนุตที่ 5 ทรงถูกปลงพระชนม์โดยหนึ่งในทหารของกษัตริย์สเวน[3]

พระขนิษฐาต่างบิดาของกษัตริย์คนุตที่ 5 คือ โซเฟียแห่งมินสก์ได้อภิเษกสมรสกับกษัตริย์วัลเดมาร์ที่ 1 ได้แก้แค้นให้กษัตริย์คนุตในปีเดียวดันด้วยการปลงพระชนม์กษัตริย์สเวนที่ 3 ในยุทธการกราเธอฮีทเกิดขึ้นในวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 1157 และพระองค์ได้เป็นกษัตริย์เดนมาร์กแต่เพียงผู้เดียว

ใกล้เคียง

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ พระเจ้าอโศกมหาราช พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ