การล่มสลายของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์และปัญหาชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ ของ พระเจ้าเฟรเดอริกที่_7_แห่งเดนมาร์ก

พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 แห่งเดนมาร์กทรงลงพระปรมาภิไธยพระราชทานรัฐธรรมนูญในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2392

พระเจ้าคริสเตียนที่ 8 พระราชบิดาเสด็จสวรรคตในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2391 ณ พระราชวังอามาเลียนเบอร์ก กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก สิริพระชนมายุ 61 พรรษาเจ้าชายเฟรเดอริกเสด็จขึ้นครองราชย์เป็น พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 แห่งเดนมาร์ก ด้วยพระชนมายุ 39 พรรษา พระองค์ต้องเผชิญกับการต่อต้านจากสาธารณะในช่วงแรกจากการที่ทรงไม่มีประสบการณ์ พระองค์ทรงเป็นสมาชิกในคณะกรรมการกฤษฎีกาแห่งเดนมาร์กตั้งแต่พ.ศ. 2384 แต่ก็ไม่ทรงแสดงออกว่าทรงสนพระทัยการเมือง อย่างไรก็ตามพระองค์ทรงเป็นหนึ่งในพระมหากษัตริย์ที่ปวงชนชาวเดนมาร์กรักและเป็นที่นิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์เดนมาร์ก อันเนื่องมาจากทรงยกเลิกระบอบการปกครองที่ดำรงมาอย่างยาวนานเมื่อครั้งอดีตและพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งเดนมาร์กที่เสรีภาพในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2392 ผลกระทบจากการปฏิวัติฝรั่งเศสปีพ.ศ. 2391 ได้ส่งผลถึงเดนมาร์ก และในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2391 เยอรมันเรียกร้องสิทธิในดัชชีชเลสวิชให้รวมอยู่ในสมาพันธรัฐเยอรมันและเรื่องดัชชีนี้ได้รับการไกล่เกลี่ยภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เสรี ข้อเรียกร้องเหล่านี้ทำให้มีการประชุมของพรรคเสรีแห่งชาติเดนมาร์กในวันที่ 20 มีนาคม เรียกว่า การประชุมคาสิโน เนื่องจากประชุมที่โรงละครคาสิโนที่ซึ่งการพูดคุยกันทำให้สับสน ออร์ลา เลห์มานน์ได้เรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีของพระมหากษัตริย์จัดสรรรัฐธรรมนูญที่เสรีแก่ทั้งเดนมาร์กและชเลสวิช ออร์ลาได้กล่าวว่า "พวกเราไม่เชื่อว่าฝ่าพระบาทจะทรงขับเคลื่อนประเทศนี้ซึ่งสิ้นหวังในการช่วยเหลือตนเองได้" ภายใต้คำขวัญที่ว่า "Danmark til Ejderen" ทำให้เกิดการเดินขบวนประท้วงโดยผู้แทนพลเมืองในวันถัดมาที่จตุรัสหน้าพระราชวัง รัฐบาลได้ลาออกอย่างฉลาดโดยลาออกก่อนครบวาระและพระเจ้าเฟรเดอริกเสด็จไปพบปะกับกลุ่มผู้ประท้วงโดยมีพระราชดำรัสว่า "ข้าพเจ้ายินดีที่ได้บอกพวกท่านว่าข้าพเจ้าเข้าใจในเรื่องที่ซึ่งพวกเขาได้บอกแก่ข้าพเจ้าแล้ว คณะรัฐมนตรีชุดเก่าได้สิ้นสุดลงแล้ว" การปฏิวัติเดนมาร์กเดือนมีนาคมจึงสำเร็จ

ใน 2 วันถัดมาได้มีการเลือกคณะรัฐมนตรีชุดใหม่โดยมีทั้งฝ่ายเสรีภาพและอนุรักษนิยมเข้าร่วมประชุมด้วย พระเจ้าเฟรเดอริกทรงประกาศต่อต้านคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่ซึ่งทรงพืจารณาแล้วว่าเป็นการล้มล้างระบอบเก่าแก่แต่โบราณและพระองค์เป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยทรงประกาศว่า "กษัตริย์จะเข้ารับฟังการประชุมของทางรัฐเมื่อได้รับเชิญเท่านั้น" หลังจากองค์เหนือหัวทรงเข้ารับการประชุมที่น่าเบื่อพระองค์มีพระราชดำรัสออกมาอย่างสั้นๆว่า "ในตอนนี้ ฉันสามารถนอนได้ตราบใดที่ฉันรู้สึกอยาก"

ช่วงปีพ.ศ. 2373 เกิดการเคลื่อนไหวของประชาชนชาวเยอรมันซึ่งต้องการรัฐธรรมนูญที่เป็นเสรีแก่รัฐชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ ที่ซึ่งรัฐชเลสวิชอันเป็นดินแดนของราชอาณาจักรเดนมาร์กจะถูกรวมเข้ากับสมาพันธรัฐเยอรมัน ส่วนรัฐฮ็อลชไตน์และเลาว์บูร์กได้เข้าร่วมแล้ว และได้กำหนดแนวพรมแดนระหว่างรัฐชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์โดยใช้แม่น้ำคองเกียและแม่น้ำเอลเบอ และเหตุนี้ได้นำไปสู่ความเห็นของขบวนการแห่งชาติเดนมาร์ก พรรคเสรีแห่งชาติเดนมาร์กได้เสนอให้ล้มล้างดัชชีแห่งชเลสวิชและรวมเข้ากับราชอาณาจักรเดนมาร์ก คาบสมุทรจัตแลนด์ควรจะกำหนดพรมแดนทางใต้ไว้ที่แม่น้ำอีเดอร์ รัฐชเลสวิชให้เป็นชายแดนทางภาษาระหว่างเดนิชและเยอรมัน รัฐบาลเดนมาร์กยืนยันว่ารัฐชเลสวิชจักต้องอยู่ภายในราชอาณาจักรเดนมาร์กต่อไปส่วนรัฐฮ็อลชไตน์ยินดีที่ถอนตัวจากเดนมาร์กและเข้าร่วมในสมาพันธรัฐเยอรมัน ในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2391 ชาวเยอรมันในรัฐชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ก่อการจลาจลต่อต้านรัฐบาลใหม่แห่งเดนมาร์กและก่อตั้งรัฐบาลของตนเองที่เมืองคีล ซึ่งนำไปสู่ สงครามชเลสวิชครั้งที่หนึ่งหรือสงครามสามปี ระหว่างเดนมาร์กกับกองกำลังพันธมิตรของชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ซึ่งได้แก่ ปรัสเซียและจักรวรรดิเยอรมัน ผลปรากฏว่ากองทัพเดนมาร์กได้ชัยชนะและเข้าครอบครองรัฐชเลสวิชได้ที่แม่น้ำอีเดอร์

กองทัพเดนมาร์กเดินทางกลับสู่โคเปนเฮเกนพร้อมการต้อนรับที่ยิ่งใหญ่จากการรบชนะสมาพันธรัฐเยอรมันในสงครามชเลสวิชครั้งที่หนึ่งในปีพ.ศ. 2392 ภาพวาดโดย ออตโต บาช จิตรกรชาวเดนมาร์ก

สงครามนำมาซึ่งชัยชนะของกองทัพเดนมาร์กแต่เสถียรภาพของการเมืองยังคงเหมือนเดิม ชาวเดนส์ยกเลิกการส่งทหารที่แม่น้ำอีเดอร์ และในปีพ.ศ. 2398 ฝ่านอนุรักษนิยมได้แนะนำให้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรเดนมาร์ก,ชเลสวิชและฮ็อลชไตน์ แต่ 3 ปีให้หลังจากการประกาศให้ฮ็อลชไตน์เป็นสมาชิกในสมาพันธรัฐเยอรมันกลับไม่ถูกต้องเพราะเป็นการฝ่าฝืนกฎข้อตกลงสากลที่เดนมาร์กได้ลงนามหลังจากสงครามสามปียุติ ปรัสเซียได้สนับสนุนชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ให้รวมกับสมาพันธรัฐเยอรมัน ในขณะที่เดนมาร์กต้องการรวมชเลสวิชเข้าในราชอาณาจักร ในปีพ.ศ. 2406 ฝ่ายเสรีแห่งชาติได้ประกาศ Novemberforfatningen หรือ รัฐธรรมนูญพฤศจิกายน แทนที่รัฐธรรมนูญปีพ.ศ. 2398 อย่างไรก็ตามพระเจ้าเฟรเดอริกเสด็จสวรรคตในปีนั้นก่อนที่จะทรงลงพระปรมาภิไธยใน Novemberforfatningen ให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ในระหว่างสงครามได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญโดยสภาที่ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่เสรี พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 ทรงลงพระปรมาภิไธยลงในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2392 เป็นกฎหมายพื้นฐาน แม้ว่าพระองค์จะทรงแคลงพระทัยในกฎข้อบังคับบางประการ นับเป็นเวลา 187 ปีแห่งระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ตั้งแต่รัชสมัยของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 3 เดนมาร์กได้เข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย

ใกล้เคียง

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ พระเจ้าอโศกมหาราช