สรุป ของ พรีเมียร์ลีก_ฤดูกาล_2019–20

พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เป็นการเริ่มต้นสัญญาฉบับใหม่ของการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ระยะเวลาสามปี โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญก็คือ การแข่งขันจำนวนแปดนัดจะถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เวลา 19:45 น. (เวลาท้องถิ่น) วันเสาร์ตลอดฤดูกาลโดย สกายสปอร์ตส[8] นอกจากนี้ แอมะซอน ยังได้ถ่ายทอดสดจำนวนสองนัดในเดือนธันวาคม รวมถึง เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี ซึ่งครั้งแรกที่นัดดังกล่าวได้ถ่ายทอดสดทั่วประเทศ[9] ส่วนประเทศไทยนั้น ทรูวิชั่นส์ กลับมาเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง โดยเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี[10]

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 2019 เลสเตอร์ซิตี ทำลายสถิติของพรีเมียร์ลีกและลีกสูงสุดของอังกฤษ โดยทำสถิติเป็นทีมเยือนที่ชนะในลีกด้วยจำนวนประตูเยอะที่สุดและเทียบเท่าสถิติชนะในพรีเมียร์ลีกด้วยจำนวนประตูเยอะที่สุด เมื่อพวกเขาเอาชนะ เซาแทมป์ตัน 9–0 ที่ เซนต์แมรีส์สเตเดียม[11]

เมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2020 ในนัดการแข่งขันที่ แมนเชสเตอร์ซิตี ชนะ แอสตันวิลลา ด้วยผลประตูรวม 6–1 เซร์ฆิโอ อาเกวโร ได้ทำลายสถิติของ ตีแยรี อ็องรี เป็นผู้เล่นต่างประเทศที่ทำประตูสูงสุด[12] และเขายังได้ทำลายสถิติเป็นผู้เล่นที่ทำแฮต-ทริกส์มากที่สุด (12) แทนที่ของ แอลัน เชียเรอร์[13]

พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลแรกที่มีการพักช่วงกลางฤดูกาลในเดือนกุมภาพันธ์ มีสามนัดจากสิบนัดแข่งขันในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์วันที่ 8–9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 อีกหกนัดแข่งขันในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์วันที่ 14–17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 และนัดที่สิบ นัดที่แมนเชสเตอร์ซิตีพบกับ เวสต์แฮมยูไนเต็ด มีการเลื่อนการแข่งขันจากวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 ไปวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 เนื่องจากพายุคีรา นัดการแข่งขันในวันเดียวกันนั้นแข่งในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เพื่อไม่ให้การถ่ายทอดสดทับซ้อนกัน[14]

ในระหว่างฤดูกาล ลิเวอร์พูล ทำสถิติเป็นทีมที่ชนะติดต่อกันมากที่สุด 18 นัด[15] ก่อนจะแพ้ให้กับ วอตฟอร์ด เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 ปัจจุบัน ลิเวอร์พูลกำลังทำสถิติชนะในบ้านติดต่อกัน 23 นัด[16] และทำสถิตินำห่าง 23 คะแนนในตารางเมื่อทุกทีมแข่งเท่ากัน (สถิติ ณ วันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 2020)[17][18]

เพื่อการแสดงออกความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันหลัง การเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ชื่อของผู้เล่นบนหลังเสื้อของพวกเขานั้นแทนที่ด้วย 'แบล็กไลฟส์แมตเทอร์' ใน 12 นัดแรกของการเริ่มต้นฤดูกาลอีกครั้ง พรีเมียร์ลีกยังให้การสนับสนุนสำหรับผู้เล่นคนใดที่ 'คุกเข่า' ก่อนหรือระหว่างการแข่งขัน[19]

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2020 แมนเชสเตอร์ซิตี แพ้ต่อ เชลซี ด้วยผลประตูรวม 2–1 ที่สนามกีฬาสแตมฟอร์ดบริดจ์ ทำให้ ลิเวอร์พูล ชนะเลิศลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 30 ปี และชนะเลิศพรีเมียร์ลีกครั้งแรก[20] ลิเวอร์พูลยังสร้างสถิติเป็นทีมที่ชนะเลิศลีกสูงสุดโดยที่ยังเหลือเกมการแข่งขันมากที่สุด (เหลือเจ็ดเกมก่อนจบฤดูกาล) และ เป็นทีมที่ชนะเลิศลีกสูงสุดช้าที่สุด (เป็นทีมเดียวที่ชนะเลิศลีกสูงสุดในเดือนมิถุนายน)[21] ในเกมการแข่งขันถัดมา แมนเชสเตอร์ซิตีและแอสตันวิลลา ได้ตั้งแถวเกียรติยศปรบมือให้แก่ลิเวอร์พูลที่ สนามกีฬาอัลติฮัดและแอนฟีลด์[22]

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 นอริชซิตีเป็นทีมแรกที่ตกชั้นไป แชมเปียนชิป หลังแพ้เวสต์แฮมยูไนเต็ดที่สนามแคร์โรว์โรดด้วยผลประตูรวม 0–4 ขณะที่ยังเหลือเกมการแข่งขันอีกสามนัด[23]

ใกล้เคียง

พรีเมียร์ลีก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023–24 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022–23 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2017–18 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021–22 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2013–14 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014–15 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2011–12 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012–13 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015–16

แหล่งที่มา

WikiPedia: พรีเมียร์ลีก_ฤดูกาล_2019–20 http://www.90min.com/posts/5006692-revealed-newcas... http://www.chelseafc.com/news/latest-news/2016/10/... http://global.espn.com/soccer/stats/_/league/ENG.1... http://www.evertonfc.com/news/2017/09/16/everton-s... http://www.footyheadlines.com/2016/12/watford-anno... http://www.insideworldfootball.com/2017/06/22/bour... http://www.lcfc.com/news/article/180714-201415-pum... http://www.premierleague.com/en-gb.html http://www.premierleague.com/en-gb/matchday/league... http://www.premierleague.com/news/1670563