พิรุณ_แผ้วพลสง

พลเอก พิรุณ แผ้วพลสง อดีตประธานกรรมการ การไฟฟ้านครหลวง อดีตราชองครักษ์พิเศษ[1] อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2494 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ จบการศึกษาจากโรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม, โรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 10 (ตท.10), โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 21 (จปร.21) กรรมการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน[2] กรรมการ เป็นหนึ่งในนายทหารที่ ควบคุมการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ พ.ศ. 2553[3] ปฏิบัติหน้าที่ตาม พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
การรับราชการเคยดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ), ผู้ทรงคุณวุฒิกองบัญชาการทหารสูงสุด, รองผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.), ราชองครักษ์, ที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด, ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองบัญชาการทหารสูงสุด, รองเสนาธิการทหารบก เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และ เสนาธิการทหารบก พร้อมกับดำรงตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส) ในตำแหน่งด้วยซึ่งการดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบกของ พล.อ.พิรุณ นั้นทำให้เป็นที่จับตามองว่าอาจจะได้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกเป็นคนต่อไปจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ในปี พ.ศ. 2553 ที่จะเกษียณอายุราชการ จากเดิมที่ผู้ที่ถูกคาดหมายว่าจะได้ดำรงตำแหน่งนี้คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก [4]แต่แล้วในที่สุดก็เป็น พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก ขณะที่ พล.อ.พิรุณ เป็นรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553ในปี พ.ศ. 2557 ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ[5]พล.อ.พิรุณ เป็นนายทหารที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี, รัฐบุรุษ และอดีตนายกรัฐมนตรี ฝากฝังให้ช่วยก่อตั้ง กองพลทหารม้าที่ 3 (พล.ม.3) ขึ้นที่ภาคอีสาน ซึ่งเป็นกองพลใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตตามความปรารถนาของ พล.อ.เปรม เมื่อครั้งขึ้นดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบกเมื่อปี พ.ศ. 2552 ในฐานะที่เป็นทหารม้าด้วยกัน[6]พล.อ.พิรุณ มีชื่อที่เรียกอย่างไม่เป็นทางการจากสื่อมวลชนว่า "บิ๊กแผ้ว" ชีวิตส่วนตัว สมรสกับ นางลักขณา แผ้วพลสง (ชื่อเล่น-ต้อย)