เมนูนำทาง
ฟุตบอลลีกคัพ_2016_นัดชิงชนะเลิศ เส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศรอบ | คู่แข่งขัน | ผล |
---|---|---|
รอบ 3 | คาร์ไลล์ ยูไนเต็ด (เหย้า) | 1–1 (3–2 ลูกโทษ) |
รอบ 4 | บอร์นมัท (เหย้า) | 1–0 |
รอบ 5 | เซาแทมป์ตัน (เยือน) | 6–1 |
รอบรองชนะเลิศ | สโตก ซิตี (เยือน) | 1–0 |
สโตก ซิตี (เหย้า) | 0–1 (6–5 ลูกโทษ) |
ลิเวอร์พูล, ในฐานะทีมจาก พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นทีมที่มีผลต่อ ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2015–16, เริ่มต้นการแข่งขันในรอบที่สาม. ในการนี้พวกเขาได้ถูกจับสลากพบกับ ทีมจาก ฟุตบอลลีกทู คาร์ไลล์ ยูไนเต็ด, ที่สนามเหย้าของพวกเขา, แอนฟีลด์. หลังการต่อเวลาพิเศษ ผลการแข่งขันอยู่ที่ 1–1 แต่ลิเวอร์พูลได้ผ่านเข้ารอบหลังจากชนะ การดวลลูกโทษไปได้ 3–2.[7] ในรอบสี่พวกเขาถูกจับสลากได้เล่นในบ้านอีกครั้ง, คราวนี้พบกับเพื่อนร่วมทีมจากพรีเมียร์ลีก บอร์นมัท; พวกเขาเอาชนะได้ในเกม 1–0 หลังจากที่ประตูแจ้งเกิดของ นาแทเนียล ไคลน์ สำหรับลิเวอร์พูล.[8]
ในรอบก่อนรองชนะเลิส, พวกเขาถูกจับสลากออกไปเยือนเพื่อนร่วมทีมจากพรีเมียร์ลีก เซาแทมป์ตัน. ที่ เซนต์แมรีส์สเตเดียม, ลิเวอร์พูล ชนะ 6–1 กับการทำแฮททริกส์จาก ดีว็อก โอรีกี, สองประตูจาก แดเนียล สเตอร์ริดจ์ และหนึ่งประตูจาก จอร์ดอน ไอบ์.[9] ในรอบรองชนะเลิศทั้งสองเลก, ลิเวอร์พูลถูกจับสลากพบกับ สโตก ซิตี. ที่สนาม บริแทนเนียสเตเดียม, ลิเวอร์พูลชนะในเลกแรก 1–0 เนื่องจากประตูชัยของ จอร์ดอน ไอบ์.[10] อย่างไรก็ตาม, พวกเขาพ่ายแพ้ในเลกที่สอง 1–0 ที่แอนฟีลด์, ถือเป็นความพ่ายแพ้นัดแรกในเกมนัดเหย้าในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลลีกคัพ,[11] ทำให้จำเป็นต้องมีการดวลลูกโทษตัดสินซึ่งผลปรากฏว่า ลิเวอร์พูล 6–5; ผู้รักษาประตู ซีมง มีญอแล เซฟลูกโทษจาก ปีเตอร์ เคราช์ และ มาร์ก มูเนียซา พร้อมด้วย โจ แอลเลน ซึ่งงเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายในการดวลลูกโทษ.[11]
รอบ | คู่แข่งขัน | ผล |
---|---|---|
รอบ 3 | ซันเดอร์แลนด์ (เยือน) | 4–1 |
รอบ 4 | คริสตัล พาเลซ (เหย้า) | 5–1 |
รอบ 5 | ฮัลล์ ซิตี (เหย้า) | 4–1 |
รอบรองชนะเลิศ | เอฟเวอร์ตัน (เยือน) | 1–2 |
เอฟเวอร์ตัน (เหย้า) | 3–1 |
แมนเชสเตอร์ซิตี, ในฐานะทีมจากพรีเมียร์ลีกที่มีผลต่อ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2015–16, เริ่มต้นในรอบที่สาม, ในการนี้พวกเขาได้ถูกจับสลากออกไปเยือนพบกับ ซันเดอร์แลนด์. ที่สนาม สเตเดียมออฟไลต์, แมนเชสเตอร์ซิตี ชนะ 4–1 โดยได้ประตูจาก เซร์คีโอ อะกูเอโร, เกฟิน เดอ เบรยเนอ, ราฮีม สเตอร์ลิง และการทำเข้าประตูตัวเองจาก วีโต มันโนเน.[12] ในรอบต่อไปพวกเขาได้ถูกจับสลากเล่นเกมเหย้าพบกับ คริสตัล พาเลซ. ที่สนาม เอติฮัด สเตเดียม, แมนเชสเตอร์ซิตี ชนะ 5–1 โดยได้ประตูจาก วีลฟรีด โบนี, เดอ เบรยเนอ, เคเลชี ไอเฮอานาโช, ยาย่า ตูเร และ มานูเอล การ์ซีอา.[13]
ในรอบก่อนรองชนะเลิศ พวกเขาได้ถูกจับสลากพบกับ ฮัลล์ ซิตี ในนัดเหย้า, พวกเขาชนะไปได้ 4–1 โดยประตูมาจาก โบนี, ไอเฮอานาโช และสองประตูจาก เดอ เบรยเนอ.[14] ในรอบรองชนะเลิศ, พวกเขาได้ถูกจับสลากพบกับ เอฟเวอร์ตัน ถึงแม้จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปก่อน 2–1 ที่ กูดิสันพาร์ก,[15] แมนเชสเตอร์ซิตี ชนะ 3–1 ที่ สนามกีฬา ซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ ด้วยเหตุนี้ได้ทะลุเข้าชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวมสองนัด 4–3 และ เช่นเดียวกันเป็นการป้องกันไม่ให้มีเกม เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี ในนัดชิงชนะเลิศ.[16]
เมนูนำทาง
ฟุตบอลลีกคัพ_2016_นัดชิงชนะเลิศ เส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศใกล้เคียง
ฟุตบอล ฟุตบอลโลก ฟุตบอลทีมชาติไทย ฟุตบอลทีมชาติเยอรมนี ฟุตบอลโลก 2022 ฟุตบอลทีมชาติบราซิล ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินา ฟุตบอลโลก 2018แหล่งที่มา
WikiPedia: ฟุตบอลลีกคัพ_2016_นัดชิงชนะเลิศ http://www.bbc.com/sport/football/35624164 http://www.thefa.com/news/2015/may/fa-fixture-list... http://www.theguardian.com/football/2016/jan/26/li... http://kassiesa.net/uefafiles/2015-18-uefa-access-... http://www.bbc.co.uk/sport/football/26311649 http://www.bbc.co.uk/sport/football/34253381 http://www.bbc.co.uk/sport/football/34265500 http://www.bbc.co.uk/sport/football/34589602 http://www.bbc.co.uk/sport/football/34589630 http://www.bbc.co.uk/sport/football/34907256