ประวัติ ของ ภาษาลาดิโน

ในยุคกลางชาวยิวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการของภาษาสเปนในฐานะภาษาที่มีชื่อเสียง ชาวยิวแปลงานจากภาษาอาหรับหรือภาษาฮีบรู (มักจะเคยแปลเป็นภาษากรีกมาก่อน) เป็นภาษาสเปน และชาวคริสต์นำไปแปลเป็นภาษาละตินอีกต่อหนึ่ง

จนกระทั่งปัจจุบัน ภาษานี้ใช้พูดอย่างกว้างขวางตลอดแหลมบอลข่าน ตุรกี ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ซึ่งเป็นผลจากการขับชาวยิวออกจากสเปน เมื่อ พ.ศ. 2035 ภาษาลาดิโนและภาษาสเปนใช้ในการค้าขายตั้งแต่จักรวรรดิออตโตมันไปจนถึงเนเธอร์แลนด์และใช้ในการติดต่อระหว่างสเปนกับโปรตุเกส วรรณคดีภาษาลาดิโนยุคแรกมีการแปลเป็นภาษาฮีบรูน้อย จนราว พ.ศ. 2300 ภาษาฮีบรูหายไปจากการใช้เป็นภาษาในการติดต่อ ในยุคต่อมามีการใช้ภาษาฝรั่งเศสอย่างแพร่หลาย อิทธิพลของภาษาฝรั่งเศสได้แทรกซึมเข้ามาในหมู่ชาวยิวด้วย

ภาษาลาดิโนสำเนียงต่างๆได้เกิดขึ้นมาก แต่การพูดให้เข้าใจกันระหว่างสำเนียงค่อนข้างจำกัด เพราะแต่ละสำเนียงจะมีคำยืมจากภาษาใกล้เคียงเช่น ภาษากรีก ภาษาตุรกี ภาษาอาหรับ ภาษากลุ่มสลาฟโดยเฉพาะภาษาบัลแกเรีย

ภาษาลาดิโนเป็นภาษาทั่วไปของเมืองซาโลบิกาในยุคจักรวรรดิออตโตมัน เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งของกรีซเมื่อ พ.ศ. 2455 และเปลี่ยนชื่อเป็นเทสซาโลนิกี ภาษานี้ยังคงเป็นภาษาหลักต่อมา จนมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวกว่า 50,000 คนในเมืองนี้ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2

การยึดครองแอฟริกาเหนือเป็นอาณานิคมของสเปนทำให้ชาวยิวเข้าไปเป็นสะพานเชื่อมระหว่างชาวสเปนกับผู้พูดภาษาเบอร์เบอร์และภาษาอาหรับจำนวนผู้พูดเหล่านี้ลดลงเนื่องจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวและการอพยพเข้าสู่อิสราเอลเมื่อมีการตั้งประเทศใหม่ ประเทศอิสราเอลกำหนดให้ใช้ภาษาฮีบรูเป็นภาษาราชการ จำนวนผู้พูดภาษาลาดิโนจึงลดลง