มลพิษทางสายตา หรือ
มลพิษทางทัศนียภาพ บ้างก็เรียก
มลทัศน์ เป็นการเสื่อมสภาพในทัศนียภาพที่สามารถมองเห็น และคุณภาพเชิงลบทาง
สุนทรียภาพของทัศนียภาพที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้นรอบ ๆ ตัวผู้คน
[1] มลพิษทางสายตาสร้างผลกระทบหลายประการทาง
มลภาวะที่มีต่อการลดทอนคุณภาพของทัศนียภาพซึ่งเกิดจากแหล่งของมลพิษที่หลากหลายรวมกัน มลพิษทางสายตารบกวนคุณภาพอันเหมาะสมในการใช้งานและความรื่นรมย์ที่มีของบริเวณนั้น ๆ จำกัดความสามารถในการขยาย
ระบบนิเวศตั้งแต่มนุษย์สู่สัตว์ อีกทั้งยังรบกวนไม่ให้ใช้ชีวิตหรือเข้าถึงที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติหรือที่มนุษย์สร้างขึ้น แม้ว่ามลพิษทางสายตามีสาเหตุมาจากแหล่งธรรมชาติ (เช่น
ไฟป่า) แต่สาเหตุสำคัญนั้น
เกิดจากมนุษย์มลพิษทางสายตาสามารถรับรู้ได้ผ่าน
ระดับการวิเคราะห์ตั้งแต่ปัญหาเล็ก ๆ ที่ส่งผลกระทบเพียงปัจเจกบุคคลจนถึงปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อสังคมในภาพรวม ปัญหาของมลพิษทางสายตาอาจอยู่ในรูปแบบของ
ถุงพลาสติกติดอยู่บนต้นไม้ ป้ายโฆษณาที่มีสีและเนื้อหาที่ขัดแย้งกันอันก่อให้เกิดการอิ่มตัวเกิน (oversaturation) ของข้อมูลทางสายตามนุษย์ในทัศนียภาพ
[2][3] จนถึงผลกระทบในภาคชุมชนโดยรวม เช่น
ความแออัดยัดเยียด (overcrowding),
สายไฟเหนือศีรษะ หรือ
การจราจรแออัด เป็นต้น การวางผังเมืองที่ไม่ดีและสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นขัดแย้งกับพื้นที่ธรรมชาติอาจส่งผลให้สร้างความเหินห่างออกจากภูมิทัศน์โดยรอบ
[4][5]ผลกระทบของมลพิษทางสายตานั้นก่อให้เกิดอาการแสดงหลัก เช่น ภาวะใจวอกแวก,
อาการตาเพลีย, การลดลงของความหลากหลายทางความคิด และการสูญเสีย
อัตลักษณ์ส่วนบุคคล[4] นอกจากนี้ยังทำให้
การตอบสนองทางสรีรวิทยาต่อความเครียด (biological stress responses) นั้นเพิ่มขึ้นและทำให้เสื่อมเสีย
การกำหนดรู้การทรงตัว[6] ขณะที่แหล่งที่มารองของมลพิษนั้นเป็นการผสมรวมกับผลกระทบที่มีของแหล่งที่มาหลักของมลพิษ เช่น แสง หรือมลภาวะทางเสียงสามารถสร้างข้อกังวลและวิกฤติทางสาธารณสุขหลายประการ