อาสนวิหาร และอดีต
มัสยิดใหญ่แห่งกอร์โดบา มีชื่อเรียกในศาสนาคริสต์ว่า
อาสนวิหารแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์[1] (
สเปน: Catedral de Nuestra Señora de la Asunción) และเป็นที่รู้จักในท้องถิ่นว่า
มัสยิด-อาสนวิหารกอร์โดบา (Mezquita-Catedral de Córdoba) ปัจจุบันเป็นแหล่ง
มรดกโลกร่วมกับพื้นที่ส่วนประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ในเมือง
กอร์โดบา ใน
แคว้นอันดาลูซิอา ทางตอนใต้ของ
ประเทศสเปนด้านประวัติความเป็นมานั้น เริ่มจากในปี
ค.ศ. 768 หลังจากการรุกรานของชาวมุสลิมบน
คาบสมุทรไอบีเรีย การก่อสร้างได้เริ่มขึ้นบนพื้นที่ซึ่งแต่เดิมเป็นที่ตั้งของโบสถ์แห่งนักบวช บีเซนเต มาร์ตี โดยที่โบสถ์แห่งนี้ได้ถูกทำลายลงและสร้างมัสยิดกอร์โดบาขึ้นมาแทนที่ ถ้ามองในมุมมองของ
มัสยิดแล้ว มัสยิดกอร์โดบาถือได้ว่าเป็นสิ่งที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของ
อาณาจักรกาหลิบแห่งกอร์โดบา ด้วยพื้นที่ขนาด 23,400 ตารางเมตร ทำให้มัสยิดกอร์โดบามีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลกเมื่อตอนที่สร้าง อันดับที่หนึ่งเป็นของ
มัสยิดแห่งนครมักกะฮ์ (ภายหลังในปี
ค.ศ. 1588 อันดับที่สองตกเป็นของมัสยิดแห่งสุลต่านอะห์มัด ประเทศตุรกี) ลักษณะเด่นอย่างหนึ่งที่น่าสนใจมากคือ
กิบลัต (ชุมทิศที่ชาวมุสลิมหันหน้าไปยามละหมาดและขอดุอาอ์) นั้นไม่ได้ชี้ไปยังทิศของนคร
มักกะฮ์ แต่ว่าชี้ไปยัง 51 องศาทางใต้ของทิศที่เป็นที่ตั้งนครมักกะฮ์ เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าที่ตั้งที่ติดกับ
แม่น้ำกัวดัลกิบีร์ จึงไม่สามารถทำการขยายการก่อสร้างออกไปทางทิศใต้ได้จนกระทั่งภายหลังชาวสเปนสามารถพิชิตดินแดนคืนได้สำเร็จ ในปี
ค.ศ. 1238 มัสยิดกอร์โดบาก็ได้กลายสภาพมาเป็นโบสถ์ตามคำสั่งของมุขนายก โลเป เด ฟิเตโร (มุขนายกคนแรกของอาสนวิหารกอร์โดบา) ในปี
ค.ศ. 1523 เริ่มการก่อสร้างโบสถ์ในส่วนกลางของมัสยิดโดยใช้รูปแบบปลาเตเรสโก (Plateresco) ใน
ภาษาสเปน "ปลาตา" (plata) หมายถึงแร่เงิน ส่วนคำว่า "ปลาเตเรสโก" ต้องการสื่อถึงตามวิถีทางของช่างเงินอาสนวิหารกอร์โดบาถือได้ว่ามีความสำคัญมากต่อกอร์โดบาและสถาปัตยกรรมอัลอันดะลุสเช่นเดียวกับ
อาลัมบรา