มัสยิดบาบรี (
ไอเอเอสที: Bābarī Masjid (บาบะรี มัสจิด); แปลตรงตัวว่า มัสยิดของ[จักรพรรดิ]บาบูร์) เป็นอดีต
มัสยิดในเมือง
อโยธยา,
ประเทศอินเดีย ซึ่งสร้างอยู่บนสถานที่ที่ชาวฮินดูเชื่อว่าเป็นสถานที่ประสูติของ
พระราม เทพเจ้าในศาสนาฮินดู และได้กลายเป็น
ประเด็นถกเถียงระหว่างชุมชนฮินดูและมุสลิมมาตลอดตั้งแต่ศควรรษที่ 18
[1] จารึกของมัสยิดระบุว่ามัสยิดนั้นสร้างขึ้นในปี 1528–29 (ฮิจเราะห์ศักราช 935) โดยนายพล
มีร์บากี ภายใต้พระราชกระแสรับสั่งของ
จักรพรรดิโมกุล จักรพรรดิบาบูร์ มัสยิดได้ถูกโจมตีและทุบทำลายลงในปี 1992 โดย
กรเสวกฮินดู ซึ่งได้นำไปสู่ความรุนแรงทั่ว
อนุทวีปอินเดียมัสยิดตั้งอยู่บนเนินเขารามโกต (Ramkot; "ป้อมของพระราม")
[2] ชาวฮินดูเชื่อกันว่ามีร์บากีได้ทุบทำลายโบสถ์พราหมณ์หลังเดิมเพื่อสร้างขึ้นเป็นมัสยิด การมีอยู่หรือไม่ของโบสถ์พราหมณ์เดิมก่อนการมีอยู่ของมัสยิดนี้เป็นหนึ่งในประเด็นถกเถียงที่สำคัญ
[3]ความขัดแย้งหลายครั้งได้เริ่มมีขึ้นในศตวรรษที่ 19 ระหว่างชาวฮินดูและมุสลิม ในปี 1949 ได้มีนักกิจกรรมชาวฮินดูภายใต้กำกับดูแลของ
ฮินดูมหาสภาได้แอบนำเทวรูปของพระรามไปประดิษฐานภายในมัสยิด ภายหลังรัฐบาลได้ล็อกมัสยิดเพื่อป้องกันการพิพาทที่อาจเกิดขึ้น ได้มีการยื่นเรื่องต่อศาลจากทั้งชาวมุสลิมและฮินดูเพื่อร้องขอให้รัฐบาลเปิดมัสยิดตามเดิมในวันที่ 6 ธันวาคม 1992 ได้มีกลุ่มนักกิจกรรมฮินดูจำนวนมากภายใต้กำกับดูแลของ
วิศวะฮินดูบริษัทและหน่วยงานเกี่ยวข้องได้เข้า
ทุบทำลายมัสยิดบาบรี ซึ่งต่อมาได้นำไปสู่เหตุจลาจลทั่วทั้ง
อนุทวีปอินเดีย มีผู้เสียชีวิตประมาณ 2,000 คน
[4][5][6][7]ในเดือนกันยายน 2010
ศาลสูงอลาหาบาดได้ตัดสินให้พื้นที่เป็นของชาวฮินดูเพื่อก่อสร้าง
มนเทียรบูชาพระราม ในขณะที่ชาวมุสลิมได้รับแบ่งพื้นที่หนึ่งในสามเพื่อสร้างมัสยิด
[8][9] คำตัดสินนี้ได้ถูกระงับในปี 2019 เมื่อ
ศาลสูงสุดของประเทศอินเดียตัดสิน
[9][9][10]ให้พื้นที่ทั้งหมดเป็นของรัฐบาลภายใต้คณะกรรมการบริหารเพื่อสร้างเป็นโบสถ์พราหมณ์ทั้งหมด และให้รัฐบาลจัดหาพื้นที่ใหม่ทดแทนขนาด 5 เอเคอร์สำหรับ
คณะกรรมการซุนนีวักฟ์ในการสร้างมัสยิดขึ้นใหม่แทนของเดิม
[11]