มินิ (
อังกฤษ: MINI)
[1] เป็น
ยี่ห้อรถยนต์ของอังกฤษ ที่มีเจ้าของโดย
บีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน
รถยนต์ขนาดเล็ก[2][3]ต้นกำเนิดของ
มินิเป็นสายรถยนต์ขนาดเล็กที่โดดเด่นของประเทศอังกฤษที่ผลิตโดยบริติชมอเตอร์คอร์ปอเรชันจาก ค.ศ. 1959 จนถึง 2000 รูปแบบของมันครอบคลุมถึง
มอร์ริสมินิ-ไมเนอร์ และออสตินเซเวน,
คันทรีแมน,
โมค, 1275 จีที และ
คลับแมน[4] รุ่นที่ดำเนินการเหล่านี้ใช้ชื่อ
คูเปอร์ เนื่องด้วยเป็นหุ้นส่วนกับเจ้าของตำนานการแข่งรถอย่าง
จอห์น คูเปอร์ สำหรับรถมินิสองประตูแบบดั้งเดิมได้รับการผลิตอย่างต่อเนื่องจนถึงปี ค.ศ. 2000 โดยการพัฒนาสืบทอดได้เริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1995 และรถรุ่นใหม่ได้รับการเปิดตัวในปี ค.ศ. 2001 การแบ่งประเภทของมินิในปัจจุบันรวมถึง
ฮาร์ดทอป/แฮทช์/คอนเวอร์ติเบิล (รถยนต์สามประตู),
คลับแมน (
เอสเตท),
มินิคันทรีแมน (
ครอสโอเวอร์ห้าประตู), คูเป/โรดสเตอร์, และ
เพซแมน (ครอสโอเวอร์สามประตูซึ่งอิงมาจากคันทรีแมน)มินิเดิมเป็นสินค้าของบริติชคอร์ปอเรชัน ซึ่งในปี ค.ศ. 1966 ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ
บริติชมอเตอร์โฮลดิง ซึ่งได้รวม
เลย์แลนด์มอเตอร์ในปี ค.ศ. 1968 ไปเป็นรูปแบบ
บริติชเลย์แลนด์[4] ซึ่งมินิได้กลายเป็นยี่ห้อในสิทธิของตนเองในปี ค.ศ. 1969
[5][6] ในคริสต์ทศวรรษ 1980 บริติชเลย์แลนด์ได้ยุติการร่วมมือ และในปี ค.ศ. 1988 ทาง
โรเวอร์กรุ๊ป รวมทั้งมินิ ได้ถูกซื้อโดย
บริติชแอโรสเปซ[4] ครั้นในปี ค.ศ. 1994 โรเวอร์กรุ๊ปก็ได้ถูกซื้อโดยบีเอ็มดับเบิลยู ส่วนในปี ค.ศ. 2000 โรเวอร์กรุ๊ปก็ได้ยุติความสัมพันธ์กับบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยูได้ผูกขาดตราสินค้าของมินิเอาไว้
[7] โดยมีโยเชน กอลเลอร์ แห่งบีเอ็มดับเบิลยูได้ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการบริหารของส่วนมินิ
[8]มินิแฮทช์, ฮาร์ดทอป, คลับแมน, คอนเวอร์ติเบิล, คูเป และโรดสเตอร์ จะประกอบที่โรงงาน
แพลนต์ออกซฟอร์ดของบีเอ็มดับเบิลยูใน
คาวเลย์ ประเทศอังกฤษ
[9] และคันทรีแมนกับเพซแมนจะได้รับการประกอบโดย
มักนาชไตร์ ในประเทศออสเตรีย
[10] โดยมียอดรวมจำหน่ายรถมินิทั่วโลกที่ 301,526 คันในปี ค.ศ. 2012
[11] ยานพาหนะมินิยังเป็นที่สนใจในการแข่งแรลลี โดยมินิ คูเปอร์ เอส ยังชนะในการแข่งขันมอนติคาร์โลแรลลีได้ถึงสามครั้งในปี ค.ศ. 1964, 1965 และ 1967 นอกจากนั้น รถมินิยังได้เข้าร่วมรายการ
เวิลด์แรลลีแชมเปียนชิพตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 ผ่าน
ทีมโปรไดรฟ์ ดับเบิลยูอาร์ซี