ยุทธการที่อิปซัส เป็นการสู้รบระหว่าง
ราชวงศ์แอนติโกนีด นำโดย
แอนติโกนัสที่ 1 มอน็อพธาลมอสกับพันธมิตร
คาสแซนเดอร์-
ไลซีมาคัส-
เซลิวคัส ยุทธการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ
สงครามไดแอโดไค อันเป็นการแย่งชิงอำนาจในหมู่แม่ทัพของ
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชหลังการสวรรคตของอเล็กซานเดอร์ในปี 323 ก่อนคริสตกาล เกิดความแตกแยกในหมู่แม่ทัพเนื่องจากอเล็กซานเดอร์ไม่ได้ประกาศผู้สืบทอด ในช่วงระหว่าง 322-311 ปีก่อนคริสตกาล เกิดสงครามไดแอโดไคขึ้น 3 ครั้ง
[1] ในปี 302 ก่อนคริสตกาล แอนติโกนัสผู้พยายามรวบรวมจักรวรรดิอเล็กซานเดอร์อีกครั้งส่ง
ดีมีทรีอุส บุตรชายไปรุกรานกรีซอันเป็นฐานที่มั่นของคาสแซนเดอร์ ไดแอโดไคอีกคน ทำให้คาสแซนเดอร์ต้องไปขอความช่วยเหลือจากไลซีมาคัส ทอเลมีและเซลิวคัส ไลซีมาคัสตอบรับและส่งทัพข้ามช่องแคบเฮลเลสปอนต์ (
ช่องแคบดาร์ดะเนลส์ในปัจจุบัน) มาที่
เอเชียน้อย ด้านเซลิวคัสยอมสงบศึกกับ
พระเจ้าจันทรคุปตเมารยะก่อนจะยกทัพข้ามเมโสโปเตเมียมาที่
แคปพาโดเชีย ในขณะที่ทอเลมียกทัพจากอียิปต์มาที่
ลิแวนต์ แต่ภายหลังถอนทัพเมื่อทราบข่าวลวงว่าแอนติโกนัสรบชนะทัพพันธมิตรแล้ว
[2]ในปี 301 ก่อนคริสตกาล ทั้งสองฝ่ายพบกันที่หมู่บ้านอิปซัสใน
ฟรีเจีย พลูทาร์กบันทึกว่าทัพแอนติโกนัสมีทหารราบ 70,000 คน, ทหารม้า 10,000 คนและช้างศึก 75 เชือก
[3] ส่วนทัพพันธมิตรมีทหารราบ 64,000 คน, ทหารม้า 10,500 คน, ช้างศึก 400 เชือกและรถม้าติดใบมีด 120 คัน
[3] ทั้งสองฝ่ายต่างจัดให้ช้างศึกอยู่ด้านหน้า ตามด้วย
รูปขบวนแฟแลงซ์ด้านหลังตรงกลาง ปีกทั้งสองข้างเป็นทหารม้า การสู้รบเริ่มขึ้นเมื่อทั้งสองฝ่ายปะทะกันด้วยทัพช้าง ด้านดีมีทรีอุสผลักดันทัพม้าของ
แอนไทโอคัส บุตรชายของเซลิวคัสออกจากสนามรบ ในช่วงเวลาที่ฝ่ายพันธมิตรกำลังเพลี่ยงพล้ำ เซลิวคัสส่งช้างศึกออกไปสกัดดีมีทรีอุสที่ถอนทัพกลับมาแล้วส่งทหารราบที่ใช้ธนูและหอกซัดไปโจมตีแอนติโกนัส การสู้รบจบลงเมื่อแอนติโกนัสถูกสังหาร ส่วนดีมีทรีอุสหนีไปที่กรีซ
[4]ความพยายามในการรวบรวมจักรวรรดิอเล็กซานเดอร์ของแอนติโกนัสจบลงหลังยุทธการครั้งนี้ อาณาจักรของเขาถูกแบ่งโดยไลซีมาคัสและเซลิวคัส อย่างไรก็ตาม ในปี 281 ก่อนคริสตกาล ไลซีมาคัสและเซลิวคัสหันมาสู้กันเองใน
ยุทธการที่คอรูเปเดียม ซึ่งจบลงด้วยความตายของไลซีมาคัส
[5]