ผลการปะทะ ของ ยุทธนาวีริโอเดลาปลาตา

เรือกราฟชเปถูกกระสุนชำรุดหลายแห่ง แต่ตัวเรือและเครื่องจักรยังใช้ได้ดี อุปกรณ์ที่ชำรุดได้แก่ ห้องครัวทำให้การประกอบอาหารไม่สะดวก ทหารประจำเรือบาดเจ็บและเสียชีวิต 94 คน กระสุนปืนขนาด 11 นิ้วเหลือ 30 เปอร์เซนต์

ขณะที่ฝ่ายอังกฤษ เรืออีเซเตอร์เสียหายหนักไม่สามารถทำการรบได้อีก เรือเอแจคเสียหายปานกลางใช้ปืนได้เพีง 2 ป้อม กระสุนเหลือ 50 เปอร์เซนต์ เรือ อาชิลเลสเสียหายเล็กน้อย แต่กระสุนปืนเหลือ 30 เปอร์เซนต์

หลังจากการปะทะ เรือกราฟชเปได้เข้าจอดที่ท่าเรือ มอนเตวิเดโอ แล้ว อัครราชทูตเยอรมันได้เจรจาขอยือเวลาจอดพักในท่าจาก 24 ชม.เป็น 15 วัน เพื่อซ่อมแซมเรือให้เรียบร้อยสมบูรณ์ รัฐบาลอุรุกวัยได้ส่งช่างมาตรวจสอบเรือร่วมกับเยอรมันและยอมยืดเวลาจอดพักเพิ่มให้อีก 48 ชม. รวมแล้วเรือกราฟชเปสามารถจอดพักที่ท่าเรือมอนเตวิเดโอได้ 72 ชม.

ขณะที่ฝ่ายอังกฤษได้ระดมเรือต่างๆ มายังปากริโอเดลาปลาตา แต่มีเพียงเรือลาดตระเวนหนัก คัมเบอร์แลนด์ ลำเดียวเท่านั้นที่สามารถมาถึงปากริโอเดลาปลาตาในวันที่ 14 ธ.ค. ส่วนหมู่เรืออื่นๆที่เหลือ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5-7 วัน อังกฤษซึ่งไม่ต้องการให้เยอรมันออกจากที่เรือมอนเตวิเดโอ ก่อนที่ฝ่ายอังกฤษจะรวมกำลังกันสำเร็จ ดังนั้น อังกฤษได้ป้องกันไม่ให้เรือกราฟชเปออกจากท่าก่อนกำหนดด้วยการส่งเรือสินค้าออกจากท่าเรือมอนเตวิเดโอทุกวัน เพราะตามกฎหมายระหว่างประเทศ รัฐบาลชาติเป็นกลางจะปล่อยให้เรือคู่สงครามออกจากท่าได้ก็ต่อเมื่อเรือของอีกฝ่ายออกจากท่าไปแล้ว 24 ชม. แต่ในทางการทูต อังกฤษแสดงท่าทีคัดค้านการยืดเวลาจอดของเรือกราฟชเป ในทางเดียวกัน เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำอาร์เจนตินาได้ปล่อยข่าวลวงโดยพูดโทรศัพท์กับทางการอังกฤษโดยไม่เข้ารหัส ทั้งที่รู้ว่าโทรศัพท์ถูกดักฟัง เพื่อให้เยอรมันเข้าใจว่าอังกฤษมีเรือมาสมทบที่ปากแม่น้ำเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ อังกฤษยังได้แพร่ข่าวลือว่า เรือบรรทุกเครื่องบิน อาร์รอแยล และเรือลาดตระเวนสงคราม รีเนาวร์ ได้มาถึงปากแม่น้ำแล้ว ทั้งที่ความจริง เรือทั้งสองลำอยู่ห่างออกไป 1,000 ไมล์

การกระจายข่าวลวง ประกอบกับความเสียหายของตัวเรือ ทำให้ น.อ.แลงสดอร์ฟ เห็นว่าเรือกราฟชเป ไม่มีทางต่อสู้กับอังกฤษได้ จึงรายงานไปยังกองทัพเรือเยอรมันให้พิจารณาเลือกดังนี

  1. พยายามตีฝ่ายออกไปบูเอโนไอเรส และยอมให้กักเรือไว้ที่นั่น
  2. จมตัวเองที่ปากริโอเดลาปลาตา
  3. ยอมให้กักเรือไว้ที่มอนเตวิเดโอ

กองทัพเรือเยอรมันได้ตอบรายงานเมื่อ 16 ธ.ค. ว่าให้ น.อ.แลงสดอร์ฟ เลือกปฏิบัติตามข้อ 1 หรือ2 แต่ไม่ให้ปฏิบัติตามข้อ 3 โดยเด็ดขาด ดังนั้น น.อ.แลงสดอร์ฟ จึงตัดสินใจจมตัวเองที่ปากริโอเดลาปลาตา บ่ายของวันที่ 17 ธ.ค. เรือสินค้าของฝรั่งเศสได้ออกจากท่ามอนเตวิเดโอ ทำให้ไม่ว่า เรือกราฟชเปจะออกจากท่าใน 72 ชม.หรือไม่ ย่อมจะผิดกฎหมายระหว่างประเทศอยู่ดี ค่ำวันเดยวกัน น.อ.แลงสดอร์ฟได้ถ่ายทหารประจำเรือที่ไม่มีหน้าที่สำคัญขึ้นบก ทำลายเอกสารลับ เครื่องมือลับ และนำเรือออกจากท่ามอนเตวิเดโอ ออกไปนอกทะเลอาณาเขตของอุรุกวัยแล้วระเบิดเรือจมตัวเอง ทหารประจำเรือที่เหลือประมาณ 200 คน ที่มากับเรือได้ถ่ายไปขึ้นเรือสินค้าเยอรมันชื่อ ทาโคมา ซึ่งแล่นตามมาด้วยเพียงสามวันหลังจากที่เรือได้สิ้นสภาพลง น.อ.แลงสดอร์ฟ ได้ปลิดชีวิตตัวเองด้วยกระสุนปืน ในชุดเครื่องแบบเต็มยศ และ ได้สิ้นลมลงบนธงชาติของเยอรมันที่ตัวเองปูรอเอาไว้ อันเป็นการเลือกทางออกแบบชายชาตินาวีที่ถือว่า สิ้นเรือก็สมควรสิ้นลม การเสียชีวิตของน.อ.แลงสดอร์ฟ ครั้งนี้ ต่างได้รับการสดุดีในความกล้าหาญจากทหารเรือทุกฝ่ายแม้กระทั่ง ฝ่ายตรงข้าม พิธีศพได้จัดทำอย่างสมเกียรติ เพราะการสู้รบครั้งนี้ ถือว่าเป็นการสู้รบกันอย่างชายชาติทหารที่มีการเคารพในกฎเกณฑ์และเต็มไปด้วยจริยธรรม

ใกล้เคียง

ยุทธนาวีเกาะช้าง ยุทธนา เปื้องกลาง ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์ ยุทธนา บุญอ้อม ยุทธนาวีที่อ่าวเลย์เต ยุทธนาวีที่มิดเวย์ ยุทธนาวีที่ซาลามิส ยุทธนาวีที่ทะเลชวา ยุทธนา มุกดาสนิท ยุทธนาวีที่ช่องแคบสึชิมะ