เมนูนำทาง
ระบบการออกเสียงภาษาบาลี ระบบเสียงสระสระเป็นเสียงพูดประเภทหนึ่งใน 2 ประเภทใหญ่ ซึ่งได้แก่ สระ และพยัญชนะ ในทางสัททศาสตร์ สระหมายถึง เสียงที่เปล่งออกมาโดยทางลมเปิด ลมต้องผ่านออกกลางลิ้นเสมอ และขณะออกเสียง เส้นเสียงจะสั่น เสียงสระจึงมักเป็นเสียงก้อง ส่วนในทางสัททวิทยาหรือระบบเสียง สระหมายถึงหน่วยทางภาษาหรือหน่วยเสียง (phoneme) ซึ่งทำหน้าที่เป็นแกน (nucleus) ของพยางค์
ในการเปล่งเสียงสระ ตามปกติเพดานอ่อนยกสูงขึ้นติดผนังคอปิดกั้นมิให้ลมออกทางจมูก จึงเรียกสระเหล่านั้นว่าสระที่เปล่งเสียงในช่องปาก (oral sound) แต่ในบางครั้ง ขณะเปล่งเสียงสระเพดานอ่อนลดต่ำลง พร้อมกับการเปิดทางช่องปาก ลมจึงออกทั้งทางช่องปากและช่องจมูก จึงเรียกสระประเภทนี้ว่า สระลักษณะนาสิก (nasalised vowel)
ในการบรรยายวิธีการเปล่งเสียงสระ เราอาจจำแนกความแตกต่างได้ตามตำแหน่งลิ้นภายในช่องปากเป็นสำคัญ คือ สระที่เปล่งโดยลิ้นอยู่ในบริเวณส่วนหน้าของช่องปากเรียกว่า สระหน้า หากลิ้นอยู่ในบริเวณส่วนหลังของช่องปาก เรียกว่า สระหลัง ถ้าลิ้นอยู่ในบริเวณระหว่างส่วนหน้าและส่วนหลังของช่องปากเรียกว่า สระกลาง (central vowel) นอกจากนี้เราอาจจำแนกสระตามระดับของลิ้น คือ ลิ้นยกสูง ลิ้นลดต่ำ เป็นต้น ตลอดจนพิจารณาตามลักษณะของริมฝีปาก คือ ห่อหรือเหยียดมากน้อยเพียงใด
ในทางสัททวิทยา เมื่อบรรยายสระในภาษาต่าง ๆ อาจใช้คำว่าสระสูง (high vowel) หรือสระปิด (close vowel) เมื่อลิ้นยกสูง
ใช้คำว่าสระต่ำ (low vowel) หรือสระเปิด (open vowel) ในกรณีที่ลิ้นลดต่ำ และสระกลาง (mid vowel) หมายถึง สระลิ้นระดับกลาง
นอกจากนี้สระลักษณะนาสิก (nasalised vowel) อาจจัดกลุ่มเป็นสระนาสิก (nasal vowel) ได้ในลักษณะตรงข้ามกับสระที่เปล่งเสียงในช่องปาก (oral vowel)
เสียงสระในบาลีจำแนกออกได้ตามตำแหน่งหน้า-หลังของลิ้น คือ สระหน้า สระกลาง หรือสระหลัง และตามระดับสูง-ต่ำของลิ้น คือ สระสูง สระกลาง หรือสระต่ำ ตลอดจนจำแนกออกตามลักษณะของริมฝีปาก คือ ห่อ หรือไม่ห่อ ได้ดังนี้
ตารางแสดงเสียงสระในบาลี
1. | สระ อะ | a | [a], aṃ [ã] | สระกลาง-ต่ำ | เสียงสั้น | ปากไม่ห่อ |
2. | สระ อา | ā | [aː] | สระกลาง-ต่ำ | เสียงยาว | ปากไม่ห่อ |
3. | สระ อิ | i | [i], iṃ [ĩ] | สระหน้า-สูง | เสียงสั้น | ปากไม่ห่อ |
4. | สระ อี | ī | [iː] | สระหน้า-สูง | เสียงยาว | ปากไม่ห่อ |
5. | สระ อุ | u | [u] | สระหลัง-สูง | เสียงสั้น | ปากห่อ |
6. | สระ อู | ū | [uː], uṃ [ũ] | สระหลัง-สูง | เสียงยาว | ปากไม่ห่อ |
7. | สระ เอ | e | [eː] หรือ [eˑ] | สระหน้า-กลาง | เสียงยาวหรือเสียงกึ่งยาว | ปากไม่ห่อ |
8. | สระ โอ | o | [oː] หรือ [oˑ] | สระหลัง-กลาง | เสียงยาวหรือเสียงกึ่งยาว | ปากห่อ |
ตารางแสดงเสียงสระในบาลี
หน้า | กลาง | หลัง | |||||
สูง | i | iṃ | ī | u | uṃ | ū | |
[i] | [ĩ] | [iː] | [u] | [ũ] | [uː] | ||
กลาง | e | o | |||||
[eː] | [oː] | ||||||
[eˑ] | [oˑ] | ||||||
ต่ำ | a | aṃ | ā | ||||
[a] | [ã] | [aː] |
หน่วยเสียงสระ หมายถึง เสียงที่ทำหน้าที่เป็นแกน (nucleus) ของพยางค์ เป็นเสียงที่มีความสำคัญ คือ แยกความหมายของคำได้ ดังในตัวอย่างคำคู่เทียบเสียง 4 คู่ ต่อไปนี้
ตารางแสดงหน่วยเสียงสระทั่วไป
เสียงสระ | ตัวอย่างคำบาลี | |||||
ไทย | โรมัน | สากล | อักษรไทย | อักษรโรมัน | สัทอักษรสากล | |
1 | อิ - อี | i – ī | [i – iː] | อิติ - อีติ | iti – īti | [it̪i – iːt̪i] |
2 | อะ - อา | a – ā | [a – aː] | วร16 - วาร | vara – vāra | [ʋaɻa – ʋaːɻa] |
3 | อุ - อู | u – ū | [u – uː] | กุล - กูล | kula – kūla | [kul̪a – kuːl̪a] |
4 | เอ - โอ | e – o | [eː – oː] | เย - โย | ye – yo | [jeː - joː] |
ในระบบเสียงบาลีจะมีหน่วยเสียงสระอยู่รวม 11 หน่วยเสียง เป็นหน่วยเสียงสระนาสิก (nasal vowel) 3 หน่วยเสียง และหน่วยเสียงสระทั่วไปที่เปล่งเสียงในช่องปาก (oral vowel) 8 หน่วยเสียง คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ ซึ่งเขียนด้วยอักษรโรมันเป็น a ā i ī u ū e o โดยมีเครื่องหมาย (–) เหนือตัวอักษรแสดงว่าเป็นสระเสียงยาว ถือว่าเป็นคนละหน่วยเสียงกับสระเสียงสั้น ซึ่งมีอยู่เป็นคู่กันรวม 3 คู่ เป็น 6 หน่วยเสียง คือ a /a/ - ā /aː/, i /i/ - ī /iː/, u /u/ - ū /uː/
ส่วนตัวอักษร e o แทนหน่วยเสียงสระยาวรวม 2 หน่วยเสียง /e/, /o/ แต่ละหน่วยเสียงจะมีรูปย่อยหน่วยเสียงเป็นเสียงสระยาว [eː], [oː] หรือเสียงสระกึ่งยาว [eˑ], [oˑ] ก็ได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะพยางค์และเสียงแวดล้อมในพยางค์ เอ e ในพยางค์เปิด คือ พยางค์ที่ลงท้ายด้วยสระ จะเป็นเสียงสระยาว เอ [eː] เช่นในคำ เม /me/ = [meː] ส่วนในพยางค์ปิด คือ พยางค์ที่ลงท้ายด้วยพยัญชนะ จะเป็นเสียงสระกึ่งยาว เอ [eˑ] เช่นพยางค์ /met-/ = [meˑt̪] ในคำ เมตตา /mettā/ = [meˑt̪t̪aː] ในทำนองเดียวกัน โอ o ในพยางค์เปิด คือพยางค์ที่ลงท้ายด้วยสระ จะเป็นเสียงสระยาว โอ [oː] เช่นในคำ โส /so/ = [soː] ส่วนในพยางค์ปิด จะเป็นเสียงสระกึ่งยาว โอ [oˑ] เช่น พยางค์ /oˑṭ/ = [oˑʈ] ในคำ โอฏฺ (โอฏฺฐ)/oṭṭha/ = [oˑʈʈʰa]
ในประเทศศรีลังกาและประเทศไทยส่วนใหญ่จะออกเสียงนิคคหิตนี้เป็นเสียงนาสิกฐานเพดานอ่อน คือ ṅ [ŋ] ตัวอย่าง 3 คำนี้จะออกเสียงเป็น กิง - กัง - กุง /kiṅ - kaṅ - kuṅ/ [kiŋ - kaŋ - kuŋ]
หน่วยเสียงสระนาสิก ซึ่งเขียนด้วยอักษรโรมันเป็น ṃ แทน นิคคหิต (˚) (=[ ̃]) ในบาลี โดยจะเขียนไว้ข้างหลังสระ ซึ่งเป็นสระเสียงสั้น 3 เสียง คือ iṃ [ĩ], aṃ [ã] และ uṃ [ũ] จัดเป็น 3 หน่วยเสียง เนื่องจากสามารถแยกความหมายของคำชุดเทียบเสียงซึ่งประกอบด้วยคำ 3 คำในตัวอย่างต่อไปนี้ได้ คือ
กิ˚ - ก˚ - กุ˚ /kiṃ – kaṃ– kuṃ/ [kĩ – kã – kũ]
การออกเสียงสระ เอ /e/, โอ /o/ ในบาลีหน่วยเสียงยาว ในที่นี้ได้อธิบายลักษณะพิเศษของหน่วยเสียง สระยาว เอ /e/, โอ /o/ ในบาลีว่าเป็น 2 หน่วยเสียง แต่ละหน่วยเสียงจะมีรูปย่อยหน่วยเสียง 2 รูป คือ เป็นเสียงสระยาว หรืออาจจะเป็นเสียงสระกึ่งยาว (half-long) ก็ได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะพยางค์และเสียงแวดล้อมในพยางค์ ดังนี้
รูปย่อยที่เป็นเสียงสระยาว [eː], [oː] จะเกิดในพยางค์เปิด คือ พยางค์ที่ไม่มีพยัญชนะท้ายหลังสระ ดังในตัวอย่าง เช่น
ตารางแสดง การออกเสียงสระ เอ, โอ ในบาลี
เสียงสระ | ตัวอย่างคำบาลี | |||||
ไทย | โรมัน | สากล | อักษรไทย | อักษรโรมัน | สัทอักษรสากล | |
1 | อิ - อี | i – ī | [i – iː] | อิติ - อีติ | iti – īti | [it̪i – iːt̪i] |
2 | อะ - อา | a – ā | [a – aː] | วร16 - วาร | vara – vāra | [ʋaɻa – ʋaːɻa] |
3 | อุ - อู | u – ū | [u – uː] | กุล - กูล | kula – kūla | [kul̪a – kuːl̪a] |
4 | เอ - โอ | e – o | [eː – oː] | เย - โย | ye – yo | [jeː - joː] |
รูปย่อยที่เป็นเสียงสระกึ่งยาว [eˑ] และ [oˑ] จะเกิดในพยางค์ปิด หมายถึง พยางค์ที่มีพยัญชนะท้ายหลังสระ พยางค์ปิดในพระพุทธพจน์บาลี จะมีลักษณะเฉพาะคือ เป็นพยางค์ที่ลงท้ายด้วยพยัญชนะซ้อน คือ พยัญชนะซ้อนกัน 2 เสียง โดยเสียงแรกทำหน้าที่เป็นพยัญชนะท้าย (พยัญชนะสะกด) ของพยางค์แรก ส่วนพยัญชนะที่ตามมาจะทำหน้าที่เป็นพยัญชนะต้นของพยางค์ถัดไป
สระ e o ในบาลี เมื่ออยู่หน้าพยัญชนะซ้อน จึงมีรูปย่อยที่เป็นเสียงสระกึ่งยาว (half-long) [eˑ], [oˑ]
ตารางแสดง เสียงสระกึ่งยาว
เสียงสระ | ตัวอย่างคำบาลี | ||||||
สยาม | ไทย | โรมัน | สากล | อักษรสยาม | อักษรไทย | อักษรโรมัน | สัทอักษรสากล |
เอ | เอ | e | [eˑ] | เมต๎ตา | เมตฺตา | mettā | [meˑt̪t̪aː] |
โอ | โอ | o | [oˑ] | โสต๎ถิ | โสตฺถิ | sotthi | [soˑt̪t̪i] |
สระ เอ /e/, โอ /o/ เป็นสระเดี่ยว
ในที่นี้จะอธิบายว่า สระ เอ /e/, โอ /o/ เป็นสระเดี่ยว ซึ่งเป็นเสียงที่อยู่ในตำแหน่งระหว่างสระ 2 เสียง ซึ่งมีฐานต่างกัน
สระ เอ /e/ เกิดในตำแหน่งระหว่างสระ อะ [a] กับ อิ [i]
สระ โอ /o/ เกิดในตำแหน่งระหว่างสระ อะ [a] กับ อุ [u]
ทั้งนี้พิจารณาตามเสียงที่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันเป็นหลักฐานสำคัญ ในที่นี้ถือว่าไม่ใช่สระประสมเพราะหากเป็นสระประสมจะเป็นสระเลื่อนเริ่มด้วยการออกเสียงที่สระหนึ่งและเลื่อนไปจบที่อีกสระหนึ่ง
เมนูนำทาง
ระบบการออกเสียงภาษาบาลี ระบบเสียงสระใกล้เคียง
ระบบการทรงตัว ระบบการได้ยิน ระบบการเห็น ระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก ระบบการลงคะแนน ระบบการนำไฟฟ้าหัวใจ ระบบกึ่งประธานาธิบดี ระบบการลงคะแนนแบบคะแนนรวม ระบบการลงคะแนนแบบผสม ระบบการออกเสียงภาษาบาลีแหล่งที่มา
WikiPedia: ระบบการออกเสียงภาษาบาลี http://www.tipitaka.net/pali/grammar/