เมนูนำทาง
รัฐธรรมนูญเมจิ บทบัญญัติหลักรัฐธรรมนูญนี้ตั้งอยู่บนหลักการที่ว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของพระมหากษัตริย์ โดยให้เหตุผลว่า ทรงสืบเชื้อสายสวรรค์อย่างไม่ขาดตอนมาชั่วกาลนาน ซึ่งต่างจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่อิงหลักอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน
เนื่องจากเป็นการนำระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (กษัตริย์มีอำนาจสมบูรณ์) กับระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ (กษัตริย์ถูกจำกัดอำนาจด้วยรัฐธรรมนูญ) มาประสมกัน จึงมีบางบทบัญญัติที่ขัดแย้งกันเองในประเด็นจักรพรรดิหรือรัฐธรรมนูญกันแน่ที่มีอำนาจสูงสุด
มาตรา 4 ของรัฐธรรมนูญนี้บัญญัติว่า จักรพรรดิทรงเป็นประมุขของจักรวรรดิ สิทธิต่าง ๆ ในความเป็นอธิปไตยประมวลอยู่ในพระองค์ทั้งสิ้น อำนาจที่แบ่งเป็นสามฝ่าย คือ บริหาร, นิติบัญญัติ, ตุลาการ นั้นรวมอยู่ที่พระองค์ อย่างน้อยก็ในทางนิตินัย แต่มาตรา 5 และ 64 ระบุว่า กฎหมายและงบประมาณต้องได้รับความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติด้วย นอกจากนี้ บางกิจการก็จะต้องกระทำในพระนามาภิไธย เช่น การออกกฎหมาย และการพิจารณาพิพากษาอรรถคดี
มาตรา 3 ว่า จักรพรรดิทรงเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ซึ่งกลุ่มนิยมเจ้าแบบสุดโต่งตีความว่า หมายถึง จักรพรรดิมีพระราชอำนาจจะยกเลิกรัฐธรรมนูญหรืองดใช้บทบัญญัติบางบทก็ได้
มาตรา 11 ว่า จักรพรรดิทรงบัญชาทหารบกและทหารเรือทั้งปวง ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกและทหารเรือตีความว่า หมายถึง ทหารทั้งปวงจะเชื่อฟังแต่พระราชโองการเท่านั้น ไม่จำต้องเชื่อฟังคณะรัฐมนตรีหรือสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
มาตรา 55 ว่า พระราชโองการไม่มีผลเป็นกฎหมายอยู่ในตัว เว้นแต่มีรัฐมนตรีลงชื่อรับสนอง อย่างไรก็ดี จักรพรรดิมีพระราชอำนาจที่จะแต่งตั้งและถอดถอนรัฐมนตรีได้ตามพระราชอัธยาศัย
รัฐธรรมนูญระบุว่า พสกนิกรญี่ปุ่น (Japanese subject) มีหน้าที่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ (คำปรารภ), เสียภาษี (มาตรา 21), และเป็นทหารเมื่อถูกเกณฑ์ (มาตรา 20)
รัฐธรรมนูญให้พสกนิกรบางกลุ่มมีสิทธิและเสรีภาพบางประการดังต่อไปนี้ เว้นแต่กฎหมายกำหนดไว้เป็นอื่น
รัฐธรรมนูญให้จักรพรรดิมีพระราชอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่งตั้งและถอดถอนข้าราชการ ประกาศสงคราม ทำสัญญาสันติภาพ ทำสนธิสัญญา ยุบสภาล่างของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และออกพระราชกำหนดในกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติอยู่นอกสมัยประชุม ที่สำคัญ คือ มีพระราชอำนาจบัญชาทั้งทัพบกทัพเรือโดยตรง รัฐธรรมนูญยังกำหนดว่า คณะรัฐมนตรีประกอบด้วยรัฐธรรมนูญที่ต้องขึ้นตรงต่อจักรพรรดิ มิใช่ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และยังกำหนดให้มีคณะองคมนตรี ส่วนองค์กรที่ไม่ได้กำหนดในรัฐธรรมนูญ คือ เก็นโร (元老) ซึ่งประกอบด้วยคนวงในที่คอยถวายคำปรึกษาต่อจักรพรรดิ เป็นองค์กรที่ทรงอิทธิพลมาก
รัฐธรรมนูญนี้ให้สภานิติบัญญัติประกอบด้วยสภาย่อยสองสภา คือ สภาสูง เรียกว่า "คิโซกุอิง" (貴族院; "สภาขุนนาง") ประกอบด้วย สมาชิกราชวงศ์ ขุนนาง และบุคคลอื่น ๆ ที่ทรงแต่งตั้ง กับสภาล่าง เรียกว่า "ชูงิอิง" (衆議院; "สภาปรึกษาทั่วไป") ประกอบด้วย บุคคลที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนที่เป็นชาย ชายคนไหนมีสิทธิเลือกตั้งเท่าไร ขึ้นอยู่กับว่า เสียภาษีมากน้อยเท่าไร คุณสมบัตินี้ผ่อนคลายลงใน ค.ศ. 1900 และ 1919 กระทั่ง ค.ศ. 1925 ที่เริ่มกำหนดให้ชายทุกคนมีสิทธิเสมอหน้ากันในการเลือกตั้ง[4]
อำนาจนิติบัญญัติเป็นของสภานิติบัญญัติและจักรพรรดิ สภาและจักรพรรดิต้องเห็นชอบด้วยกันในการตรากฎหมาย แต่สภามีอำนาจร่างกฎหมาย รวมถึงพิจารณาและให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายและงบประมาณ
เมนูนำทาง
รัฐธรรมนูญเมจิ บทบัญญัติหลักใกล้เคียง
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รัฐธรรมนูญสหรัฐ รัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรเบลเยียม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 รัฐธรรมนูญเมจิแหล่งที่มา
WikiPedia: รัฐธรรมนูญเมจิ https://www.britannica.com/topic/Meiji-Constitutio... https://books.google.com/books?id=5QJsvhHwjVMC&lpg... https://query.nytimes.com/gst/abstract.html?res=9C... https://www.ndl.go.jp/constitution/e/etc/c02.html