ราชวงศ์อ็องฌู

• ชาร์ลส์ที่ 1 แห่งอ็องฌู หรือ พระเจ้าคาร์โลที่ 1 แห่งเนเปิลส์ ปฐมกษัตริย์แห่งเนเปิลส์ซึ่งเป็นพระโอรสคนเล็กของพระเจ้าหลุยส์ที่ 8 แห่งฝรั่งเศสกับพระราชินีบลังกาแห่งกัสติยา ทรงอภิเษกสมรสสองครั้ง ครั้งแรกกับเบียทริซแห่งพรอว็องส์ ซึ่งนับว่าเป็นพระราชินีคู่สมรสคนแรกของเนเปิลส์ หลังพระนางสิ้นพระชนม์ พระเจ้าชาร์ลส์อภิเษกสมรสใหม่กับมาร์เกอรีตแห่งบูร์กอญ
• พระเจ้าคาร์โลที่ 2 แห่งเนเปิลส์ สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระราชบิดา กษัตริย์คนก่อนได้จับพระโอรสธิดาสองคนสมรสเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี โดยพระเจ้าคาร์โลที่ 2 ถูกจับให้สมรสกับมาเรียแห่งฮังการี ขณะที่พระขนิษฐาของพระองค์อภิเษกสมรสกับพระเจ้าลาสโลที่ 4 แห่งฮังการี
• พระเจ้าโรแบร์โตแห่งเนเปิลส์ สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระราชบิดา เนื่องจากพระโอรสคนโตของของกษัตริย์คนก่อนสิ้นพระชนม์ก่อนพระราชบิดา พระโอรสคนที่สองบวชเป็นบิชอป ส่วนคาร์โล พระราชนัดดาเป็นเพียงเด็กน้อย พระเจ้าโรแบร์โตซึ่งเป็นพระโอรสคนที่สามจึงได้ขึ้นครองราชย์ พระพระองค์สมรสสองครั้ง ครั้งแรกกับโยลันดาแห่งอารากอนซึ่งสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1302 ทรงจึงสมรสใหม่กับซันชาแห่งมายอร์กา
• สมเด็จพระราชินีนาถโจวานนาที่ 1 แห่งเนเปิลส์ สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระอัยกา เนื่องจากกษัตริย์คนก่อนมีพระโอรสเพียงคนเดียวซึ่งสิ้นพระชนม์ก่อนพระราชบิดา ธิดาคนโตของพระโอรสผู้ล่วงลับจึงได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระอัยกา ซึ่งในตอนนั้นพระนางเป็นเด็กกำพร้าเนื่องจากทั้งพระบิดามารดาต่างสิ้นพระชนม์ไปแล้ว เพื่อให้สายเลือดของพระภาติยะของพระเจ้าโรแบร์โตได้กลับคืนสู่บัลลังก์ พระราชินีโจวานนาถูกจับสมรสกับแอนดรูว์แห่งฮังการีที่แม้จะได้รับยศเป็นกษัตริย์ แต่มีบทบาทน้อยมากในการบริหารปกครองและถูกฆาตกรรมในเวลาต่อมา พระราชินีนาถโจวานนาได้ให้กำเนิดพระราชโอรสที่ประสูติหลังการสิ้นพระชนม์ของพระบิดา แต่เด็กน้อยมีชีวิตอยู่ได้เพียงสองปี ต่อมาพระนางได้อภิเษกสมรสใหม่กับลุยจิ เจ้าชายแห่งตารันโต แต่การสมรสไม่เป็นที่นิยมอย่างมาก พระเชษฐาของแอนดรูว์ อดีตพระสวามี ซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งฮังการีได้บุกเนเปิลส์ พระราชินีนาถโจวานนาจึงต้องหนีไปจากราชอาณาจักร พระนางได้ให้กำเนิดพระธิดานามว่าแคทเธอรีน ทั้งคู่ได้กลับมาเนเปิลส์อีกครั้งหลังกษัตริย์แห่งฮังการีทิ้งเนเปิลส์ซึ่งกำลังเกิดโรคระบาดไป พระนางได้ให้กำเนิดพระธิดาอีกคนนามว่าฟร็องซัวส์ แต่พระธิดาทั้งสองสิ้นพระชนม์เร็ว จากนั้นพระราชินีนาถโจวานนาก็ไม่ได้ตั้งครรภ์อีกแม้จะทรงอภิเษกสมรสใหม่อีกสองครั้ง พระนางถูกฆาตกรรมอย่างทารุณที่ปราสาทมูโรในปี ค.ศ. 1382
• พระเจ้าคาร์โลที่ 3 แห่งเนเปิลส์ บุตรคนเดียวของลุยจิแห่งดูรัซโซ บุตรชายคนเล็กของจอห์น ดยุคแห่งดูรัซโซ พระโอรสคนเล็กของพระเจ้าคาร์โลที่ 2 แห่งเนเปิลส์กับมาเรียแห่งฮังการี พระเจ้าคาร์โลที่ 3 สมรสกับมาร์เกริตาแห่งดูรัซโซ บุตรสาวของมาเรีย พระขนิษฐาของพระราชินีนาถโจวานนาที่ 1 ลูกพี่ลูกน้องลำดับที่หนึ่งของตนเอง พระองค์ยังครองตำแหน่งเป็นกษัตริย์แห่งฮังการีในช่วงสั้น ๆ กระทั่งถูกลอบสังหารตามคำสั่งของเอลิซาเบธแห่งบอสเนีย พระราชินีม่ายของพระเจ้าลาโยสที่ 1 แห่งฮังการีที่คิดว่ามาเรีย พระธิดาของพระนางสมควรได้เป็นครองราชย์
• พระเจ้าลาดิสเลา (ลาสซโล) แห่งเนเปิลส์ สืบทอดตำแหน่งในเนเปิลส์ต่อจากพระราชบิดา พระองค์สามครั้ง ครั้งแรกกับคอนสตันซา เคียรามอนเตซึ่งหย่ากันโดยไม่มีพระโอรสธิดา ทรงสมรสใหม่กับมารีแห่งลุยซินญ็องซึ่งสิ้นพระชนม์หลังสมรสได้เพียงหนึ่งปี พระเจ้าลาดิสเลาสมรสใหม่อีกครั้งกับมารีแห่งอ็องกิย็อง แต่ก็ไม่มีพระโอรสธิดาด้วยกัน
• สมเด็จพระราชินีนาถโจวานนาที่ 2 แห่งเนเปิลส์ พระเชษฐภคินีของกษัตริย์คนก่อน มีพระชนมายุ 41 พรรษาขณะขึ้นครองราชย์และเคยสมรสกับวิลเฮล์ม ดยุคแห่งออสเตรียซึ่งถึงแก่กรรมไปแล้ว พระนางอภิเษกสมรสกับฌาคส์ที่ 2 เคานต์แห่งลามาร์ช แต่ไม่มีพระโอรสธิดาด้วยกัน เนื่องจากไม่มีทายาทสายตรง พระนางได้ประกาศชื่อเรอเนแห่งอ็องฌูเป็นทายาทของตน
• พระเจ้าเรนาโต (เรอเน) ที่ 1 แห่งเนเปิลส์ สมรสสองครั้ง ครั้งแรกกับอีซาแบล ดัชเชสแห่งโลร์แรนซึ่งสิ้นพระชนม์ในเวลาต่อมา พระองค์สมรสใหม่กับฌาน เดอ ลาวาล มาร์เกอรีต พระธิดาซึ่งเกิดจากพระมเหสีคนแรกค์ต่อมาได้สมรสกับพระเจ้าเฮนรีที่ 6 แห่งอังกฤษ พระเจ้าเรนาโตถูกขับไล่ออกจากเนเปิลส์โดยพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 5 แห่งอารากอน

ราชวงศ์อารากอน

• พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 5 แห่งอารากอนและที่ 1 แห่งเนเปิลส์ สมรสกับมารีอาแห่งกัสติยา แต่ไม่มีพระโอรสธิดาด้วยกัน
• พระเจ้าเฟร์ดินันโด (เฟร์นันโด) ที่ 1 แห่งเนเปิลส์ พระโอรสนอกสมรสของกษัตริย์คนก่อน พระองค์สมรสกับอีซาแบลแห่งเค]ร์มงต์ซึ่งเป็นหลานสาวจากการสมรสครั้งแรกของมารีแห่งอ็องกิย็อง หลังอีซาแบลสิ้นพระชนม์ พระเจ้าเฟร์ดินันโดสมรสใหม่กับชวนนาแห่งอารากอน พระราชธิดาของพระเจ้าชวนที่ 2 แห่งอารากอน
• พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 2 แห่งเนเปิลส์ สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระราชบิดา ทรงสมรสกับอิปโปลิตา มาเรีย สฟอร์ซา
• พระเจ้าเฟร์ดินันโดที่ 2 แห่งเนเปิลส์ สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระราชบิดาซึ่งสละบัลลังก์ ทรงสมรสกับโจวานนาแห่งเนเปิลส์ พระปิตุจฉาวัย 18 พรรษาซึ่งเป็นพระขนิษฐาต่างมารดาของพระราชบิดา
• พระเจ้าเฟเดริโกแห่งเนเปิลส์ สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระภาติยะ ทรงสมรสกับกับอานน์แห่งซาวอยซึ่งเสียชีวิตจากการคลอดลูก พระองค์สมรสใหม่กับอิซาเบลลา เดล บันโซ ในปี ค.ศ. 1501 ทรงถูกพระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศสขับไล่ออกจากตำแหน่งกษัตริย์แห่งเนเปิลส์ ก่อเกิดเป็นสงครามที่ทำให้พระเจ้าเฟร์รันโดที่ 2 แห่งอารากอนกลายเป็นกษัตริย์แห่งเนเปิลส์
• พระเจ้าเฟร์รันโดที่ 2 แห่งอารากอน
• สมเด็จพระราชินีนาถชวนนา (ฆวนนา) แห่งกัสติยา สืบทอดตำแหน่งกษัตริย์แห่งซิซิลี, กษัตริย์แห่งอารากอน, บาเลนเซีย และมายอร์กา, เคานต์แห่งบาร์เซโลนา, กษัตริย์แห่งกัสติยาและเลออน, กษัตริย์แห่งเนเปิลส์ และกษัตริย์แห่งนาวาร์ต่อจากพระราชบิดา
• จักรพรรดิคาร์ล (การ์โลส) ที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระราชมารดา

ราชวงศ์ฮับสบวร์กและราชวงศ์บูร์บงของสเปน

ราชวงศ์ฮับสบวร์กปกครองเนเปิลส์ไปจนถึงปี ค.ศ. 1734 เมื่อทั้งเนเปิลส์และซิซิลีต่างถูกกองทัพสเปนเข้ายึดครอง การ์โลส ดยุคแห่งปาร์มา พระราชโอรสคนเล็กของพระเจ้าเฟลีเปที่ 5 แห่งสเปนได้รับแต่งตั้งเป็นกษัตริย์แห่งเนเปิลส์และซิซิลีในปี ค.ศ. 1735 ทรงสมรสกับมาเรีย อามาเลียแห่งซัคเซิน การ์โลสไม่ถูกนับเป็นกษัตริย์ผู้ปกครอง แต่พระองค์กลับถูกเรียกว่าการ์โลสแห่งบูร์บง ต่อมาทรงขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งสเปน

• พระเจ้าเฟร์ดินันโด (เฟร์นันโด) แห่งซิซิลีทั้งสอง พระโอรสคนเล็กของพระเจ้าการ์โลสที่ 3 แห่งสเปน (การ์โลส ดยุคแห่งปาร์มา) ทรงสมรสกับมาเรีย คาร์โรลินาแห่งออสเตรีย พระราชธิดาของจักรพรรดินีมาเรีย เธเรเซีย พระองค์ถูกปลดลงจากบัลลังก์เนเปิลส์สองครั้ง หนึ่งครั้งโดยกลุ่มปฏิวัติสาธารณรัฐปาร์เธโนเปียเป็นระยะเวลา 6 เดือน และอีกครั้งโดยนโปเลียน โบนาปาร์ต ในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 1816 พระองค์ได้รวมราชอาณาจักรเนเปิลส์และราชอาณาจักรซิซิลีเข้าด้วยกันกลายเป็นราชอาณาจักรซิซิลีทั้งสอง