เมนูนำทาง
รูปหลายเหลี่ยม การตั้งชื่อรูปหลายเหลี่ยมปกติแล้วในภาษาไทย รูปหลายเหลี่ยมจะมีกี่ด้านกี่มุม ก็เรียกชื่อไปตามนั้นโดยตรงเช่น รูปที่มีห้าด้านห้ามุม ก็เรียกรูปห้าเหลี่ยม แต่ในภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากลจะมีหลักการตั้งชื่อที่ต่างออกไป คำว่า polygon ในภาษาอังกฤษมีที่มาภาษากรีก แล้วถ่ายทอดไปยังภาษาละตินดังนี้
ซึ่งแปลว่า หลายมุม ดังนั้นการตั้งชื่อจะใช้การประสมคำอุปสรรคเชิงตัวเลขในภาษากรีกเป็นหลัก แล้วตามด้วยคำปัจจัย "-gon" เช่น pentagon หมายถึงรูปห้าเหลี่ยม แต่สำหรับจำนวนขนาดใหญ่ นักคณิตศาสตร์ก็มักเขียนเป็นตัวเลขแทนเช่น 257-gon และในรูปของพจน์ทั่วไปก็เขียนเป็น n-gon ซึ่งมีประโยชน์ในการอ้างถึงตัวแปร n ที่อยู่ในสูตร
รูปหลายเหลี่ยมพิเศษบางรูปมีชื่อของมันเอง ตัวอย่างเช่น รูปห้าเหลี่ยมดาวปรกติ (regular star pentagon) มันก็คือ รูปดาวห้าแฉก (pentagram) เป็นต้น
ชื่อ | ด้าน | หมายเหตุ |
---|---|---|
henagon (หรือ monogon) | 1 | ในระนาบแบบยุคลิด ลดรูปเหลือเส้นโค้งปิดที่มี 1 จุดยอด |
digon | 2 | ในระนาบแบบยุคลิด ลดรูปเหลือเส้นโค้งปิดที่มี 2 จุดยอด |
triangle (หรือ trigon) | 3 | รูปหลายเหลี่ยมแรกที่มีเนื้อที่ในระนาบแบบยุคลิด |
quadrilateral (หรือ quadrangle หรือ tetragon) | 4 | รูปหลายเหลี่ยมแรกที่สามารถตัดตัวเองได้ |
pentagon | 5 | รูปหลายเหลี่ยมแรกที่สามารถทำเป็นรูปดาวได้ |
hexagon | 6 | |
heptagon | 7 | หลีกเลี่ยง septagon เพราะ sept- เป็นภาษาละติน |
octagon | 8 | |
enneagon (หรือ nonagon) | 9 | |
decagon | 10 | |
hendecagon | 11 | หลีกเลี่ยง undecagon เพราะ un- เป็นภาษาละติน |
dodecagon | 12 | หลีกเลี่ยง duodecagon เพราะ duo- เป็นภาษาละติน |
tridecagon (หรือ triskaidecagon) | 13 | |
tetradecagon (หรือ tetrakaidecagon) | 14 | |
pentadecagon (หรือ quindecagon หรือ pentakaidecagon) | 15 | |
hexadecagon (หรือ hexakaidecagon) | 16 | |
heptadecagon (หรือ heptakaidecagon) | 17 | |
octadecagon (หรือ octakaidecagon) | 18 | |
enneadecagon (หรือ enneakaidecagon หรือ nonadecagon) | 19 | |
icosagon | 20 | |
ไม่มีชื่อในภาษาอังกฤษ | 100 | มุมภายในของรูปปรกติเท่ากับ 176.4° hectogon เป็นชื่อในภาษากรีก ในขณะที่ centagon เป็นคำประสมระหว่างละตินกับกรีก ซึ่งก็ไม่มีชื่อไหนที่นิยมใช้ |
chiliagon | 1,000 | มุมภายในของรูปปรกติเท่ากับ 179.64° René Descartes used the chiliagon and myriagon (see below) as examples in his Sixth meditation to demonstrate a distinction which he made between pure intellection and imagination. He cannot imagine all thousand sides [of the chiliagon], as he can for a triangle. However, he clearly understands what a chiliagon is, just as he understands what a triangle is, and he is able to distinguish it from a myriagon. Thus, he claims, the intellect is not dependent on imagination.[5] |
myriagon | 10,000 | มุมภายในของรูปปรกติเท่ากับ 179.964° ดูหมายเหตุข้างบน |
megagon [6] | 1,000,000 | มุมภายในของรูปปรกติเท่ากับ 179.99964° |
สำหรับการตั้งชื่อรูปหลายเหลี่ยมที่มีด้านอยู่ระหว่าง 20-100 ด้าน จะใช้การประสมของคำอุปสรรคดังนี้
หลักสิบ | และ | หลักหน่วย | คำปัจจัย |
---|---|---|---|
-kai- | 1 | -hena- | -gon |
20 | icosi- | 2 | -di- |
30 | triaconta- | 3 | -tri- |
40 | tetraconta- | 4 | -tetra- |
50 | pentaconta- | 5 | -penta- |
60 | hexaconta- | 6 | -hexa- |
70 | heptaconta- | 7 | -hepta- |
80 | octaconta- | 8 | -octa- |
90 | enneaconta- | 9 | -ennea- |
อย่างไรก็ตาม คำว่า "-kai-" ก็ไม่ได้มีการใช้ทุกครั้ง (ดังเช่นในตารางข้างบน) ตัวอย่างเช่น รูป 42 เหลี่ยม เรียกว่า tetracontakaidigon หรือ tetracontadigon ในขณะที่รูป 50 เหลี่ยม เรียกว่า pentacontagon
เมนูนำทาง
รูปหลายเหลี่ยม การตั้งชื่อรูปหลายเหลี่ยมใกล้เคียง
รูปหลายเหลี่ยม รูปหลายเหลี่ยมสร้างได้ รูปหลายเหลี่ยมนูนและเว้า รูปหลายเหลี่ยมมุมเท่า รูปหลายเหลี่ยมด้านเท่า รูปหลายเหลี่ยมทางเดียว รูปไม่หล่อ รูปหกเหลี่ยม รูปห้าเหลี่ยม รูปสลักพระโพธิสัตว์กวนอิมเขาคอหงส์แหล่งที่มา
WikiPedia: รูปหลายเหลี่ยม http://local.wasp.uwa.edu.au/~pbourke/geometry/pol... http://mathworld.wolfram.com/EquilateralPolygon.ht... http://www.math.washington.edu/~grunbaum/Your%20po...