เหตุยิงเคนเนดีและทิพพิต ของ ลี_ฮาร์วีย์_ออสวอลด์

ตามข้อมูลการสอบสวนของหน่วยงานรัฐหลายแห่ง รวมทั้งคณะกรรมการวอร์เรน ขณะที่ขบวนรถยนต์ของเคนเนดีผ่านดีลเลย์พลาซาของดัลลาส เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน ออสวอลด์ยิงกระสุนไรเฟิลสามนัด "... ในช่วงเวลาระหว่างประมาณ 4.8 วินาที ถึงเกิน 7 วินาที" จากชั้นหก หน้าต่างหัวมุมตะวันออกเฉียงใต้ของอาคารเก็บหนังสือ (Book Depository)[1] ประธานาธิบดีถูกกระสุนสองนัด ซึ่งทำให้เขาถึงแก่อสัญกรรมและทำให้ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส จอห์น คอนแนลลี ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ตามคณะกรรมการวอร์เรน ทันทีหลังถูกยิง ออสวอลด์ซ่อนไรเฟิลไว้หลังกล่องสักกล่อง และลงจากอาคารโดยใช้ปล่องบันไดด้านหลัง เกือบเก้าสิบนาทีหลังเหตุยิง ในห้องอาหารกลางวันชั้นสอง เขาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแมเรียน เบเกอร์ (Marrion Baker) ร่วมกับหัวหน้าของออสวอลด์ รอย ทรูลี (Roy Truly) เบเกอร์ปล่อยให้ออสวอลด์ผ่านไปหลังทรูลีระบุว่าเขาเป็นลูกจ้าง ตามข้อมูลของเบเกอร์ ออสวอลด์มิได้มีอาการประหม่าหรือกระหืดกระหอบแต่อย่างใด[2] นางโรเบิร์ต เรด (Robert Reid) หัวหน้าฝ่ายธุรการที่อาคารเก็บ กลับไปยังสำนักงานของเธอภายในสองนาทีหลังเกิดเหตุลอบสังหาร เธอว่าเห็นออสวอลด์ผู้ "ใจเย็นมาก" บนชั้นสอง พร้อมด้วยโค้กอยู่ในมือ[3] ออสวอลด์ออกจากอาคารโดยใช้บันไดหน้า และออกจากอาคารเก็บผ่านทางเข้าด้านหน้าไม่นานก่อนที่ตำรวจจะปิดกั้นการเข้าออก หัวหน้าของออสวอลด์ ภายหลังชี้แก่เจ้าหน้าที่ว่าออสวอลด์เป็นลูกจ้างเพียงคนเดียวที่เขามั่นใจว่าหายไปจากอาคารหลังเหตุลอบสังหาร แม้เขาจะเชื่อว่ามีคนอื่นอีกเช่นกัน[4][5]

เมื่อเวลาประมาณ 12.40 น. ออสวอลด์ขึ้นรถโดยสารประจำทางของนคร แต่เขาขอลงรถ ซึ่งอาจเป็นเพราะการจราจรที่ติดขัด และลงจากรถอีกสองช่วงตึกถัดมา[6] เขานั่งรถแท็กซี่ไปยังห้องเช่า ที่เลขที่ 1026 ถนนนอร์ทเบคเลย์ ถึงเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. เขาเข้าผ่านประตูหน้า ตามข้อมูลของแม่บ้าน เอียร์ลีน โรเบิร์ตส์ (Earlene Roberts) เขาไปยังห้องของเขาทันที และ "เดินค่อนข้างเร็ว"[7] นางโรเบิร์ตส์ให้การว่าออสวอลด์ออกจากอาคาร "ไม่กี่นาที" ให้หลัง รูดซิปแจ็กเก็ตที่เขาไม่ได้ใส่เข้ามาในอาคาร และเธอเห็นออสวอลด์ครั้งสุดท้ายขณะยืนอยู่ที่ที่หยุดรถโดยสารประจำทางถนนเบคเลย์ทางเหนือ ด้านหน้าบ้าน[8]

พยานคนต่อไปพบเห็นออสวอลด์ใกล้กับหัวมุมถนนอีสต์ที่ 10 และถนนนอร์ทแพตตัน ห่างไปประมาณ 1.4 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงเหนือจากห้องชุดของเขา อันเป็นระยะทางซึ่งคณะกรรมการวอร์เรนว่า "ออสวอลด์สามารถเดินไปได้ง่าย ๆ"[9] ตามข้อมูลของคณะกรรมการวอร์เรน ที่ตรงนั้นมีตำรวจลาดตระเวน เจ. ดี. ทิพพิต (J. D. Tippit) ขับรถขนาบข้างออสวอลด์และ "มีการต่อปากต่อคำกันอย่างชัดเจนด้วยหน้าต่างด้านคนขับหรือช่องลม" เมื่อเวลาประมาณ 13.11-13.14 น. ทิพพิตออกจากรถของเขาและถูกตีและยิงสี่นัดเสียชีวิตทันที[10][11] พยานหลายคนได้ยินเสียงปืนและเห็นชายคนหนึ่งวิ่งหนีจากจุดเกิดเหตุโดยถือปืนลูกโม่[12] พบปลอกกระสุนปืน 4 นัดที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งได้รับการยืนยันโดยพยานผู้เชี่ยวชาญ[13] ก่อนคณะกรรมการวอร์เรนและคณะกรรมาธิการที่สภาตั้งขึ้นนั้นสรุปว่าปลอกกระสุนทั้งหมดยิงมาจากปืนพกลูกโม่ซึ่งภายหลังพบว่าอยู่ในความครอบครองของออสวอลด์ ไม่เหมือนกับอาวุธอื่น อย่างไรก็ดี กระสุนที่มาจากร่างของทิพพิตไม่อาจระบุได้ว่ามาจากปืนพกลูกโม่ของออสวอลด์[13][14]

การถูกจับกุม

ผู้จัดการร้านรองเท้า จอห์นนี บรีเวอร์ ให้การว่าอีกไม่กี่นาทีให้หลัง เขาเห็นออสวอลด์หลบซ่อนเข้าไปในห้องทางเข้าของร้านของเขา ด้วยความสงสัยในพฤติกรรมนี้ บรีเวอร์จึงได้เฝ้าดูออสวอลด์เดินต่อไปตามถนนและเข้าไปในโรงภาพยนตร์เท็กซัสใกล้ๆ อย่างเงียบเชียบ โดยไม่จ่ายเงิน[15] เขาเตือนพนักงานขายตั๋วของโรงภาพยนตร์ ซึ่งโทรศัพท์เรียกตำรวจ[16] เมื่อเวลาประมาณ 13.40 น.

เมื่อตำรวจมาถึง และบรีเวอร์ชี้ตัวออสวอลด์ซึ่งกำลังนั่งอยู่ใกล้กับด้านหลังของโรงภาพยนตร์ ออสวอลด์ดูเหมือนว่าจะยอมจำนน โดยกล่าวว่า "เอาละ มันจบสิ้นแล้ว" ก่อนจะโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาถูกปลดอาวุธหลังมีการต่อสู้ขัดขืน[17] ระหว่างที่เขาถูกนำออกจากโรงภาพยนตร์ ออสวอลด์ตะโกนว่าเขาเป็นเหยื่อความรุนแรงจากตำรวจ[18]

เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ออสวอลด์มาถึงอาคารกรมตำรวจ ที่ซึ่งเขาถูกตั้งคำถามโดยนักสืบ จิม ลีเวลล์ (Jim Leavelle) เกี่ยวกับการยิงเจ้าหน้าที่ทิพพิต เมื่อร้อยเอก เจ. ดับเบิลยู. ฟริทซ์ ได้ยินชื่อของออสวอลด์ เขาจำได้ว่าเป็นชื่อของลูกจ้างอาคารเก็บหนังสือผู้ได้รับรายงานว่าสูญหายและเป็นผู้ต้องสงสัยในการลอบสังหารประธานาธิบดีเคนเนดีแล้ว[19][20] ออสวอลด์ถูกบันทึกข้อหาฆาตกรรมทั้งสองบุคคล และเมื่อถึงคืนนั้น เขาถูกกล่าวหาด้วยเช่นกัน[21]

ไม่นานหลังออสวอลด์ถูกจับกุม เขาพบกับผู้สื่อข่าวในห้องโถง และบอกว่า "ผมไม่ได้ยิงใครทั้งนั้น" และ "พวกเขาจับผมเพราะข้อเท็จจริงที่ว่าผมเคยอยู่ในสหภาพโซเวียต ผมเป็นแค่แพะรับบาป!" ภายหลัง ในการประชุมกับสื่อที่จัดขึ้น ผู้สื่อข่าวรายหนึ่งถามว่า "คุณฆ่าประธานาธิบดีหรือ" และออสวอลด์ ผู้ซึ่งในขณะนั้นถูกแจ้งให้ทราบถึงข้อหาฆาตกรรมทิพพิต แต่ยังไม่ถูกแจ้งข้อหาฆาตกรรมเคนเนดี ตอบว่า "ไม่ ผมไม่ได้ถูกตั้งข้อหานั้น อันที่จริงแล้ว ไม่มีใครบอกผมเรื่องนี้เลย สิ่งแรกที่ผมได้ยินคือจากผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ในห้องโถงที่ถามผมอย่างนั้น" และเมื่อเขาถูกนำออกจากห้อง มีการตั้งคำถามว่า "คุณทำอะไรในสหภาพโซเวียต" และ "ทำไมดวงตาของคุณบาดเจ็บ" ออสวอลด์ตอบว่า "ตำรวจตีผม"[22][23][24]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ลี_ฮาร์วีย์_ออสวอลด์ http://books.google.com/books?id=0MeH1Z-Dd-QC&pg=P... http://books.google.com/books?id=iopAAAAAIAAJ http://books.google.com/books?id=lBpCAAAAIAAJ http://www.history-matters.com/archive/contents/wc... http://www.history-matters.com/archive/jfk/wc/wcvo... http://www.history-matters.com/archive/jfk/wc/wcvo... http://www.history-matters.com/archive/jfk/wc/wcvo... http://www.history-matters.com/archive/jfk/wc/wcvo... http://www.history-matters.com/archive/jfk/wc/wcvo... http://www.history-matters.com/archive/jfk/wc/wcvo...