ปราสาทและวังแห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์ ของ ลุ่มแม่น้ำลัวร์

ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำลัวร์เป็นที่ตั้งของพระราชวัง, วัง, ปราสาท และึคฤหาสน์กว่าสามร้อยหลังที่เริ่มต้นด้วยการสร้างเป็นป้อมปราการเพื่อการป้องกันข้าศึกศัตรูในคริสต์ศตวรรษที่ 10 มาจนถึงเปลี่ยนแปลง หรือการสร้างวังใหม่อันโอ่อ่าหรูหราอีกห้าร้อยปีต่อมา เมื่อพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสทรงเริ่มสร้างพระราชวังขนาดใหญ่ในบริเวณนี้ บรรดาขุนนางผู้ไม่กล้าที่จะอยู่ห่างไกลจากราชสำนักอันเป็นพื้นฐานของอำนาจก็ทำตาม การมาสร้างปราสาทราชวังกันในบริเวณที่มีภูมิทัศน์อันงดงามเป็นการดึงดูดนักออกแบบสวนภูมิทัศน์ที่ตามมาด้วย

เมื่อมาถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 พระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 ทรงย้ายราชสำนักจากลุ่มแม่น้ำลัวร์กลับไปยังปารีส สถาปนิกคนสำคัญๆ ที่เคยทำงานในบริเวณนั้นก็ย้ายตามกลับไปด้วยแต่ลุ่มแม่น้ำลัวร์ก็ยังคงเป็นสถานที่บรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ส่วนใหญ่ยังนิยมที่จะเสด็จมาประทับ เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เสด็จขึ้นครองราชย์ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 พระองค์ก็ทรงใช้ปารีสเป็นศูนย์กลางของอำนาจอย่างถาวรโดยการทรงสร้างพระราชวังแวร์ซายส์ที่ไม่ไกลจากปารีสเอง แต่กระนั้นผู้ที่เป็นที่โปรดปรานของพระมหากษัตริย์และคหบดีผู้มั่งคั่งก็ยังคงมาบูรณปฏิสังขรณ์วังหรือคฤหาสน์ หรือ สร้างสิ่งก่อสร้างใหม่อันหรูหราที่ใช้เป็นที่พำนักระหว่างฤดูร้อนกันในบริเวณนี้

วังและคฤหาสน์มาถูกทำลายหรือปล้นทำลายไปมากระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศส ไม่เช่นนั้นก็เกิดจากการทำลายโดยเจ้าของที่กลายเป็นขุนนางตกยากในชั่วข้ามคืนเมื่อหัวหน้าครอบครัวถูกปลดและบั่นคอด้วยกิโยติน ระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และ สงครามโลกครั้งที่สองวังหรือคฤหาสน์บางหลังก็ถูกเกณฑ์ให้เป็นกองบัญชาการทหาร และบางแห่งก็ยังคงใช้ต่อมาจนกระทั่งสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง

ในปัจจุบันวังหรือคฤหาสน์ที่เป็นสมบัติส่วนบุคคลก็ใช้เป็นที่พำนัก มีบ้างที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ หรือบางแห่งก็เปลี่ยนไปเป็นโรงแรม หรือบางแห่งก็กลายมาเป็นที่ทำการของรัฐบาลท้องถิ่น สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่บางแห่งเช่นพระราชวังชองบอร์ดก็ได้รับการบริหารโดยรัฐบาลกลางและกลายเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนหลายหมื่นคนต่อปี