กบมีหาง (
อังกฤษ: Tailed frogs) เป็น
วงศ์ของ
สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำใน
อันดับกบ (Anura) วงศ์หนึ่ง ใช้
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ascaphidae
[1] ซึ่งหมายถึง 'ไม่มีสันใต้ฝ่าเท้าหลัง (spade)' จากคำอุปสรรคนำหน้า a- และรากศัพท์ภาษา
กรีกโบราณ: σκαφίς (skaphís, ‘spade, shovel’) หมายถึงสันใต้ฝ่าเท้าหลังใช้สำหรับขุดดิน ซึ่งวงศ์กบชนิดนี้ไม่มี
[2][3]กบในวงศ์นี้ มีลักษณะสำคัญคือ
ตัวผู้มีอวัยวะถ่าย
อสุจิรูปร่างคล้ายหาง อยู่ทางด้านท้ายของห้องทวารร่วม อวัยวะส่วนนี้ได้รับการค้ำจุนด้วยแท่งกระดูกอ่อนที่เจริญมาจากกระดูกเชิงกราน ภายในมีเส้นเลือดฝอยจำนวนมาก ขณะที่ตัวผู้กอดรัด
ตัวเมียจะงอหางไปข้างหน้าและสอดเข้าไปในช่องทวารร่วมของตัวเมียเพื่อถ่ายอสุจิ การงอหางเกิดจากการหดตัวของอสุจิ นอกจากนี้แล้วยังมี
กระดูกสันหลังหน้ากระดูกก้นกบจำนวน 9 ปล้อง ซึ่งนับว่ามีมากกว่ากบวงศ์อื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีกระดูกอิพิพิวบิสอยู่ด้านหน้ากระดูกพิวบิส
ลูกอ๊อดมีช่องปากมีจะงอยปากและมีตุ่มฟัน กระดูกสันหลังมีเซนทรัมเป็นแบบอย่างของแอมฟิซีลัส กระดูกหัวไหล่เป็นแบบอย่างของอาร์กซิฟเอรัล กระดูกแอสทรากาลัสและกระดูกแคลลาเนียมเชื่อมรวมกันเฉพาะส่วนต้นและส่วนปลาย ไม่มีกระดูกแทรกระหว่างระหว่างกระดูกนิ้ว 2 ชิ้นสุดท้าย ช่องเปิดของห้องเหงือกมีช่องเดียวอยู่ในแนวตรงกลางลำตัว จึงเป็นข้อ
สันนิษฐานว่า กบในวงศ์นี้เป็นบรรพบุรุษของกบวงศ์อื่น ๆ ทั้งหมดมีขนาดลำตัวขนาดเล็กประมาณ 3.5-5
เซนติเมตร อาศัยอยู่ในน้ำตลอดเวลาในลำธารที่มีกระแสน้ำแรงและเย็นจัด ตัวผู้ไม่มีแผ่นเยื่อแก้วหูและไม่ส่งเสียงร้องแต่ใช้
ตารับภาพเพื่อเสาะหาตัวเมีย การผสมพันธุ์เกิดขึ้นในน้ำโดยตัวผู้กอดรัดตัวเมียในบริเวณเอว กบตัวเมียจะเก็บอสุจิไว้ในท่อนำไข่นาน 9
เดือน ต่อจากนั้นจึงวางไข่จำนวน 40-80 ฟองติดไว้ใน
ก้อนหินใต้ลำธาร ไข่มีขนาดใหญ่และ
เอ็มบริโอเจริญอยู่ภายในไข่เป็นระยะเวลานาน ลูกอ๊อดมีอวัยวะใช้ยึดเกาะก้อนหินเจริญขึ้นมาบริเวณปาก และลดรูปครีบหางซึ่งปรับตัวเพื่ออาศัยในลำธารกระแสน้ำไหลแรง และลูกอ๊อดใช้ระยะเวลานานถึง 2-3 ปี จึงเจริญเป็นตัวเต็มวัยกบในวงศ์กบมีหางนี้ มีเพียงสกุลเดียว คือ
Ascaphus มีเพียง 2
ชนิด แพร่กระจายพันธุ์ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ
สหรัฐอเมริกา อาศัยอยู่บริเวณแนวฝั่งลำธารที่น้ำใสและเย็นจัดบน
ภูเขาที่มีความสูงกว่า 2,000
เมตรจาก
ระดับน้ำทะเล[4] [5]