วงศ์งูเหลือม (
อังกฤษ: Python) เป็น
วงศ์ของ
งูไม่มีพิษขนาดใหญ่ นับเป็นงูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่ยังคงสืบเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน ใช้ชื่อวงศ์ว่า Pythonidaeมีลักษณะโดยรวม คือ มีกระดูกพรีแมคซิลลามี
ฟันยกเว้นใน
สกุล Aspidites ที่ไม่มี กระดูกแมคซิลลาเรียงตัวกันตามยาว ช่องเปิดตาอยู่ตรงรอยต่อระหว่างกระดูกฟรอนทัลกับกระดูกพาไรทัล
ขากรรไกรมีกระดูกโคโรนอยด์ มีกระดูกของรยางค์ต่อระหว่างกระดูกฟรอนทัลกับกระดูกพาไรทัล ขากรรไกรล่างมีกระดูกโคโรนอยด์ มีกระดูกของรยางค์ขาคู่หลังที่ยังลดรูปไม่หมดและเป็นแท่งขนาดเล็กที่มองเห็นได้ทางช่องเปิดทวารร่วม มีกระดูกเชิงกรานขนาดเล็กที่ยังลดรูปไม่หมดฝังอยู่ในกล้ามเนื้อของลำตัว มีปอดข้างซ้ายใหญ่ มีท่อนำไข่มั้งสองข้างเจริญเท่ากันมีแอ่งรับ
คลื่นความร้อนกระจายอยู่บริเวณขอบปากบนและล่าง เป็นงูขนาดใหญ่และไม่มีพิษ จึงมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและเรี่ยวแรงพละกำลังมาก จึงใช้วิธีการรัดเหยื่อจนกระดูกหักและขาดใจตายจึงกลืนกินเข้าไปทั้งตัว ล่าเหยื่อด้วยการรอให้เข้ามาใกล้แล้วจึงเข้ารัดมีการกระจายพันธุ์ในหลายภูมิประเทศทั้ง
ป่าดิบชื้น,
ทะเลทราย ไปจน
เกาะแก่งต่าง ๆ กลาง
ทะเล หรือในชุมชนเมือง ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำ พบตั้งแต่
ทะเลทรายซาฮาราใน
ทวีปแอฟริกา,
เอเชียใต้,
เอเชียตะวันออก และ
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จนถึง
ออสเตรเลีย มีขนาดตั้งแต่ 30
เซนติเมตร จนถึงกว่า 10
เมตร แต่มีขนาดโดยเฉลี่ยประมาณ 1 เมตร หากินทั้งบนบก, ในน้ำ และบน
ต้นไม้ โดยกิน
สัตว์เลือดอุ่นจำพวก
สัตว์ปีกและ
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นหลัก ขยายพันธุ์ด้วยการวางไข่ ตัวเมียจะเป็นผู้ดูแลไข่ด้วยการกกจนกระทั่งฟักเป็นตัว ปริมาณไข่ขึ้นอยู่กับอายุและความแข็งแรงของตัวเมีย มีทั้งหมด 9 สกุล 40
ชนิด[2] เป็นงูที่
มนุษย์รู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี คือ
งูหลาม (Python bivittatus) และ
งูเหลือม (M. reticulatus) ซึ่งเป็นงูที่มีขนาดใหญ่และยาวที่สุดในโลก ใน
ประเทศไทยพบ 3 ชนิด คือ งูหลาม, งูเหลือม และ
งูหลามปากเป็ด (P. curtus) หลายชนิดนิยมเลี้ยงเป็น
สัตว์เลี้ยง และมีราคาแพงอย่างยิ่งในตัวที่มีสีสันหรือลวดลายแปลกไปจาก
ธรรมชาติ ซึ่งสามารถเพาะขยายพันธุ์กันได้ในที่เลี้ยง เช่น
งูหลามบอล (P. regius) หลายชนิดใช้เนื้อ,
กระดูกและหนังเป็นประโยชน์ได้ เช่น ใช้ทำ
เครื่องดนตรีบางประเภท หรือทำเป็นอุปกรณ์ใช้งาน เช่น กระเป๋า,
รองเท้า,
เข็มขัด หรือทำเครื่องราง
ของขลัง[3][4][5][6]