เป็นตัวประกันสานมิตรไมตรีกับจีน ของ วรรณไว_พัธโนทัย

สมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ตรงกับช่วงสมัยที่จีนเพิ่งตั้งประเทศใหม่ (จีนคอมมิวนิสต์) ได้เพียง 7 ปี ภายใต้การนำของผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ ประธานเหมา เจ๋อตง โดยมี โจว เอินไหล เป็นนายกรัฐมนตรี ช่วงนั้นโลกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย คือ ค่ายโลกเสรีอันมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำ และค่ายโลกสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ไทยเป็นพันธมิตรสหรัฐฯร่วมต่อต้านจีน และสหรัฐฯเองพยายามทุกวิถีทางในการสกัดจีนไม่ให้เติบโต เมื่อสหรัฐฯแพ้คอมมิวนิสต์ในสงครามเกาหลี ทำให้ประเทศเล็กไม่แน่ใจความแข็งแกร่งของสหรัฐฯ นายสังข์ พัธโนทัย ที่ปรึกษาคนสนิทของจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ได้เสนอความคิดว่า ประเทศไทยควรปรับท่าทีใหม่ ไม่ควรเป็นศัตรูกับจีน เพราะด้วยจีนกับไทย มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกันมากกว่าชาติอื่นๆ อีกทั้งจีนยังเป็นประเทศที่ฟื้นไข้และจะต้องเป็นชาติมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตอย่างแน่นอน ซึ่งจอมพล ป. พิบูลสงคราม ก็เห็นชอบด้วย จึงได้มอบหมายงานสานสัมพันธ์ไทยกับจีนคอมมิวนิสต์ให้แก่นายสังข์ เป็นผู้ดำเนินการ

โจวเอินไหลและภรรยาเติ้งหยิ่งเชา ถ่ายภาพร่วมกับครอบครัวพัธโนทัย ที่บ้านพักในทำเนียบจงหนันห่าย

เนื่องจากนายสังข์ พัธโนทัย เป็นบุคคลที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์จีน และเห็นว่าจีนในอดีตมักเชื่อมความสัมพันธ์ด้วยกันระหว่างก๊กต่อก๊ก โดยใช้วิธีส่งลูกหรือญาติสนิทเพื่อเป็นตัวประกันในการสานสัมพันธ์ นายสังข์ พัธโนทัย จึงตัดสินใจส่ง เด็กชายวรรณไว พัธโนทัย กับเด็กหญิงนวลนภา (สิรินทร์) พัธโนทัย ลูกแท้ๆของตน ไปอยู่ในอุปการะเลี้ยงดูของนายกรัฐมนตรี โจว เอินไหล เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจในความสัมพันธ์ ซึ่งนายกรัฐมนตรี โจว เอินไหล ได้ให้การอุปการะแก่ทูตน้อยทั้ง 2 เป็นอย่างดี