เหนือวัคซีนธรรมดา

วัคซีนอาร์เอ็นเอมีข้อดีเหนือวัคซีนธรรมดา[5][4]เพราะไม่ได้ทำมาจากจุลชีพก่อโรคที่ยังเป็น (หรือแม้แต่จุลชีพก่อโรคที่ลดฤทธิ์แล้ว) จึงไม่สามารถทำให้ติดโรคได้เทียบกับวัคซีนธรรมดาที่ต้องเพาะเลี้ยงจุลชีพก่อโรค ซึ่งถ้าทำในขนาดมาก ๆ ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงการติดโรคเฉพาะพื้นที่ที่โรงงานผลิตนั้น ๆ[5]วัคซีนอาร์เอ็นเอยังสามารถผลิตได้เร็วกว่า มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า และทำเหมือนกัน ๆ ตามมาตรฐานได้ดีกว่า (คือมีอัตราความผิดพลาดน้อยกว่าในการผลิต) ซึ่งอาจช่วยการตอบสนองต่อโรคระบาดที่รุนแรง[4][5]

เหนือวัคซีนดีเอ็นเอ

นอกจากจะมีข้อดีเหมือวัคซีนดีเอ็นเอเหนือวัคซีนธรรมดาแล้ว วัคซีนอาร์เอ็นเอนก็ยังมีข้อดีเหนือวัคซีนดีเอ็นเออีกด้วยรวมทั้ง

• เอ็มอาร์เอ็นเอแปลรหัสในไซโทซอล จึงไม่ต้องเข้าไปในนิวเคลียสของเซลล์ และไม่เสี่ยงรวมเข้าในจีโนมของเซลล์ถูกเบียน[3]
• นิวคลีโอไซด์แปลงรูป (เช่น pseudouridines, 2'-O-methylated nucleosides) สามารถประกับเข้ากับเอ็มอาร์เอ็นเอเพื่อไม่ให้ภูมิคุ้มกันตอบสนองแล้วสลายอาร์เอ็นเอ แล้วให้ผลที่คงยืนกว่าผ่านสมรรถภาพการแปลรหัสที่ดีกว่า[70][71][72]
• ส่วน open reading frame (ORF)[upper-alpha 4] และ untranslated regions (UTR)[upper-alpha 5] ของเอ็มอาร์เอ็นเอยังสามารถจัดให้เหมาะสมที่สุดเพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ (เป็นกระบวนการที่เรียกว่า sequence engineering ของเอ็มอาร์เอ็นเอ) เช่น ทำให้ guanine-cytosine content[upper-alpha 6] หนาแน่นขึ้น (ซึ่งอาจทำให้อาร์เอ็นเอเสถียรขึ้น) หรือเลือก UTR ที่รู้ว่าทำให้แปลรหัสโปรตีนเพิ่มขึ้น[73]

ยังสามารถเพิ่มรหัส ORF เกี่ยวกับกลไกการถ่ายแบบอาร์เอ็นเอเพื่อเพิ่มการแปลรหัสแอนติเจน ซึ่งก็จะเพิ่มการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน เป็นการลดวัสดุที่ต้องใช้ทำวัคซีน[74][75]