บทความนี้ใช้ระบบคริสต์ศักราช เพราะอ้างอิงคริสต์ศักราชและคริสต์ศตวรรษ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง
วัคซีนอาร์เอ็นเอ หรือ
วัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ (
อังกฤษ: RNA vaccine, mRNA vaccine) เป็น
วัคซีนชนิดหนึ่งที่ใช้ก๊อปปี้ของ
สารเคมีซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติและเรียกว่า
เอ็มอาร์เอ็นเอ (messenger RNA) เพื่อก่อการตอบสนองทาง
ภูมิคุ้มกัน[1]วัคซีนส่ง (transfect)
โมเลกุลของ
อาร์เอ็นเอสังเคราะห์เข้าไปในเซลล์ภูมิคุ้มกันเมื่อเข้าไปแล้ว
อาร์เอ็นเอของวัคซีนก็จะทำหน้าที่เหมือนกับเอ็มอาร์เอ็นเอ ทำให้เซลล์สร้าง
โปรตีนแปลกปลอมที่ปกติ
จุลชีพก่อโรคเช่น
ไวรัสหรือเซลล์
มะเร็งจะเป็นผู้สร้าง โมเลกุลโปรตีนเช่นนั้นก็จะกระตุ้นให้เกิด
การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะ ซึ่งสอนร่างกายให้รู้จักและทำลายจุลชีพก่อโรคหรือเซลล์มะเร็งที่สัมพันธ์กับโปรตีนนั้น ๆ
[1]การส่งเข้าไปในเซลล์ทำโดยรวมอาร์เอ็นเอเข้ากับอนุภาคนาโนที่เป็น
ลิพิด (lipid nanoparticle) ซึ่งป้องกันสายอาร์เอ็นเอและช่วยให้เซลล์กลืนอนุภาคนาโนบวกกับอาร์เอ็นเอนั้นเข้าไป
[2][3]ผลไม่พึงประสงค์สามัญแต่คาดได้ของวัคซีน (คือ reactogenicity) คล้ายกับของวัคซีนธรรมดาที่ไม่ใช้อาร์เอ็นเออื่น ๆ
[4]ผู้มี
ภาวะภูมิต้านตนเองอาจเกิดผลไม่พึงประสงค์ต่อวัคซีนอาร์เอ็นเอ
[4]ข้อดีของวัคซีนนี้เหนือวัคซีนโปรตีนธรรมดาก็คือความรวดเร็วในการออกแบบและผลิตวัคซีน มีค่าผลิตถูกกว่า
[5][4]และการก่อการตอบสนองของภูมิต้านทานทั้งที่อำนวยโดยเซลล์ (cellular immunity) และโดยมาโครโมเลกุลอื่น ๆ (humoral immunity) เช่น
สารภูมิต้านทานเป็นต้น
[6]ข้อเสียของ
วัคซีนโควิด-19 แบบเอ็มอาร์เอ็นเอของบริษัท
ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคก็คือ ต้องแช่แข็งในอุณหภูมิต่ำมาก
[1]วิธีการสร้างวัคซีนเช่นนี้ได้ดึงดูดความสนใจอย่างมากเมื่อพัฒนาวัคซีนโควิด-19จนถึงต้นเดือนธันวาคม 2020 มีวัคซีนโควิด-19 แบบเอ็มอาร์เอ็นเอสองอย่างที่ได้ผ่านการทดลองในมนุษย์ขั้นสุดท้ายและกำลังรอการอนุมัติให้ใช้เป็นการฉุกเฉิน คือ วัคซีน
mRNA-1273 ของบริษัทโมเดิร์นา และวัคซีน
Tozinameran ของบริษัท
ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค
[1]ในวันที่ 2 ธันวาคม 2020 สำนักงานควบคุมผลิตภัณฑ์ยาและสุขภาพ (Medicines and Healthcare products Regulatory Agency, MHRA) แห่ง
สหราชอาณาจักรเป็นองค์กรควบคุมยาแรกในโลกที่อนุมัติวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอให้ใช้ในมนุษย์ คืออนุญาตให้ใช้วัคซีนโควิด-19
tozinameran ของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคเป็นการฉุกเฉินสำหรับคนจำนวนมาก
[7][8][9]ในวัน 11 ธันวาคม
องค์การอาหารและยาสหรัฐก็ได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนเป็นการฉุกเฉินเช่นกัน
[10]ต่อมาวันที่ 21 ธันวาคม ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐก็แนะนำให้อนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทโมเดิร์นาเป็นการฉุกเฉินในผู้ใหญ่
[11]ซึ่งองค์การอาหารและยาสหรัฐก็อนุมัติ 3 วันต่อมา
[10]มี
ข้อมูลผิด ๆ เกี่ยวกับวัคซีนอาร์เอ็นเอที่ส่งต่อ ๆ กันใน
สื่อสังคม คือมีการอ้างผิด ๆ ว่าวัคซีนอาร์เอ็นเอจะเปลี่ยน
ดีเอ็นเอของผู้ที่ได้รับหรือเน้นการไร้ประวัติความปลอดภัยก่อน ๆ ของ
เทคโนโลยี โดยละเลยหลักฐานใหม่ ๆ ที่ได้สะสมใน
งานทดลองกับคนเป็นหมื่น ๆ
[12]