วัคซีนโรคอีสุกอีใส เป็น
วัคซีนที่ใช้ป้องกัน
อีสุกอีใส[3] วัคซีนหนึ่งเข็มสามารถป้องกันโรคขนาดปานกลางได้ 95% และโรคขั้นรุนแรงได้ 100% การให้วัคซีนสองเข็มจะให้ผลที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเพียงหนึ่งเข็ม ถ้าให้แก่ผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคภายในห้าวันหลังจากที่ได้รับเชื้ออีสุกอีใส วัคซีนจะสามารถป้องกันเชื้อโรคในผู้ติดเชื้อได้เกือบทุกราย ทั้งนี้การให้วัคซีนแก่ประชากรกลุ่มใหญ่จะสามารถป้องกันผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนได้อีกด้วย วิธีการให้วัคซีนคือการฉีดเข้าใต้ผิวหนัง
[4]องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำการให้วัคซีนตามกำหนดการให้วัคซีนเท่านั้นถ้าประชากรที่ได้รับวัคซีนของประเทศดังกล่าวมีจำนวนมากกว่า 80% แต่ถ้าประชากรที่ได้รับวัคซีนมีจำนวนเพียง 20 ถึง 80% ก็เป็นไปได้ว่าประชากรที่จะติดเชื้อโรคเมื่ออายุมากขึ้นก็จะมีจำนวนมากขึ้นและผลโดยรวมก็อาจแย่ลงตามไปด้วย ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรที่จะให้วัคซีนไม่ว่าจะเพียงเข็มเดียวหรือสองเข็มก็ตาม
[4] ข้อแนะนำสำหรับการให้วัคซีนในประเทศสหรัฐอเมริกาสองเข็ม โดยเริ่มเข็มแรกเมื่อเด็กอายุสิบสองถึงสิบห้าเดือน
[3] นับตั้งแต่ปี 2555 ประเทศส่วนใหญ่ในสหภาพยุโรปได้แนะแนะนำให้มีการฉีดวัคซีนแก่เด็กทุกคนหรือกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง
[5] แต่ทั้งนี้ไม่ใช่ทุกประเทศที่มีการจัดหาวัคซีนเนื่องจากราคาของวัคซีน
[6]วัคซีนนี้มีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงเล็กน้อยอาจได้แก่ อาการปวดบริเวณที่ฉีดวัคซีน มีไข้ และผื่นผิวหนัง
[3] ผลข้างเคียงขั้นรุนแรงนั้นพบได้น้อยมากและส่วนใหญ่มักเกิดในกลุ่มของผู้ที่มีการกดการทำงานของภูมิคุ้มกัน ควรต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้วัคซีนนี้ในผู้ที่ติดเชื้อ
เอชไอวี/เอดส์[4] และไม่แนะนำให้ใช้ในผู้ที่อยู่ในระหว่าง
การตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม มีบางกรณีที่มีให้การวัคซีนในระหว่างการตั้งครภ์และไม่พบผลลัพธ์เชิงลบใดๆ
[3][4] การให้วัคซีนนี้อาจทำโดยการให้เพียงตัวเดียวหรือร่วมกับวัคซีนเอ็มเอ็มอาร์
[4] วัคซีนนี้ผลิตจากเชื้อไวรัสที่อ่อนฤทธิ์
[3]การจำหน่ายวัคซีนอีสุกอีใสครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2527
[4] วัคซีนนี้อยู่ในทะเบียนยาที่จำเป็นขององค์การอนามัยโลก โดยเป็นยารักษาโรคที่มีความสำคัญมากที่สุดซึ่งจำเป็นต่อระบบสุขภาพขั้นพื้นฐาน
[7] ในสหรัฐอเมริการาคาของวัคซีนนี้อยู่ที่ระหว่าง 100 ถึง 200 เหรียญสหรัฐฯ
[8]