การเรียกชื่อวัดของชาวบ้าน ของ วัดพระพุทธสิหิงค์

ในเพลาวัดได้บันทึกชื่อวัดว่า วัดพระศรีสรรเพชญพุทธสิหิงค์ แต่ด้วยที่คนปักษ์ใต้โดยเฉพาะจังหวัดตรัง นครศรีธรรมราชและพัทลุง มีนิสัยการพูดที่สั้นๆ เร็วๆ ถ้วนๆ การเรียกชื่อวัดจึงกร่อนลงและเพี้ยนไปในที่สุด เริ่มจากตัดพยางค์ พระศรีสรรเพชญพุทธะ ออก เหลือเพียง วัดสิหิงค์ และพยางค์ สิ โดนกร่อนลง จนเหลือแต่ วัดหิงค์ ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น วัดหึงค์ ภายในที่สุด แต่ชาวบ้านมีตำนานเล่าว่า ขณะสร้างหลวงพ่อพุทธสิหิงค์พระประธานอยู่นั้น มีเสาไม้กันเกรา(คนใต้เรียกว่าไม้ตำเสา)ลอยมาทางทิศหัวนอนของวัด(ทิศใต้)ลมได้มากระทบกับกระแสน้ำจึงเกิดเสียง หึง หึง หึง ดังขึน 3 ครั้ง ชาวบ้านจึงช่วยนำไม้นั้นขึ้นมาและนำไปไว้ข้างในองค์พระประธาน ต่อมาวัดนี้ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ในใบวิสุงคามสีมาเขียนชื่อวัดว่า วัดพระพุทธสิหิงค์ ทางกรมศาสนาจึงยึดชื่อวัดในวิสุงคามสีมาเป็นหลัก อีกสาเหตุหนึ่งเพราะชื่อวัดแรกเริ่ม ดันไปคล้ายคลึงและเขียนคล้ายกับ วัดพระศรีศรรเพชญ์ ในเขตโบราณสถานพระราชวังโบราณเมืองกรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา จะทำให้คนสับสนได้ ชื่อวัดพระศรีสรรเพชญพุทธสิหิงค์ก็มีคนรู้จักและได้ยินน้อยมากหรือเกือบไม่รู้จักหรือได้ยินชื่อวัดเดิมๆไปด้วยซ้ำ

ใกล้เคียง

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร วัดพระธรรมกาย วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร วัดพระธาตุลำปางหลวง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร