วัดเทพพุทธาราม (เซียนฮุดยี่) (
อักษรจีน: 仙佛寺) เป็นวัดในพระพุทธศาสนาฝ่าย
มหายานและ
สุขาวดี สังกัด
คณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย แห่งแรกของจังหวัดชลบุรี สืบสายคำสอนมาจากนิกายเสียมจง หรือ
นิกายฌานหรือ
เซน สาขาหลินฉี (
วิปัสสนากรรมฐาน) เป็นศาสนสถานอันสง่างดงามที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง ซึ่งสร้างโดยพระเถระจีนนิกายฉายาว่า “
พระอาจารย์ตั๊กฮี้” ท่านเป็นปฐมบูรพาจารย์ผู้สถาปนาสร้างวัดมีเนื้อที่วัดในปัจจุบันประมาณ 20 ไร่เศษ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2504 ซึ่งปรากฏจากหลักฐานแผ่นป้ายไม้แกะสลักในวิหารพระรัตนตรัย ซึ่งบันทึกโดยมหาอำมาตย์ตรีพระยาพิพัฒนธนากร ได้จารึกไว้ว่าวัดนี้สร้างเสร็จในปีพุทธศักราช 2480 ภายนับได้กึ่งพุทธกาล บูรพาจารย์พระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตรฯ (โพธิ์แจ้งมหาเถระ) ท่านได้ธุดงค์วัตรไปอุปสมบท และศึกษาพระธรรมวินัย 2 ปี สำนักสังฆปรินายกนิกายวินัย ของนิกายหลุกจง
นิกายวินัย วัดล่งเชียงยี่ บนภูเขาป๋อฮั้วซัว มณฑลกังโซว ประเทศจีน เมื่อสำเร็จธรรมท่านเดินทางกลับมาพร้อมพระคัมภีร์มหายานนิกายวินัย และมีการแปลพระวินัยฉบับมหายานสู่ภาคไทยขึ้นเป็นครั้งแรก ต่อมาท่านได้ธุดงค์วัตรไปไกลถึงทิเบต ตะวันออกและได้เข้าศึกษานิกายมิกจง หรือ
นิกายมนตรายาน ณ อารามรินโวเช่ แคว้นคามทิเบตตะวันออก เป็นเวลา 6 ปี หลังจากนั้นท่านได้ธุดงค์กลับ เพราะคำสั่งของพระอาจารย์มหาชีวินพุทธนอร่ารินโปเช่ พร้อมทั้งท่านได้มอบตราประจำตำแหน่งพระสังฆนายก นิกายมนตรยาน และมอบพระคัมภีร์ฝ่าย
วัชรยาน กลับสู่เมืองไทย ก่อนที่ทิเบตจะแตก 2 ปี เมื่อท่านได้กลับมาเมืองไทยท่านได้ฟื้นฟูพุทธศาสนาฝ่ายมหายานในประเทศไทย เป็นปึกแผ่นและเจริญรุ่งเรืองสูงสุด และต่อมาท่านได้วางรากฐานคณะสงฆ์จีนนิกายให้เป็นปึกแผ่นแล้วท่านจึงดำริให้บูรณะฟื้นฟูวัดเทพพุทธาราม ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และร้างไปนานให้กลับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง นับแต่นั้นมาวัดเทพพุทธาราม จึงได้ยึดถือวัตรปฏิบัติและสืบทอดคำสอนจาก
นิกายวินัย และ
นิกายมนตรายาน นับจากนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน