วัวทะเลชเต็ลเลอร์ (
อังกฤษ: Steller's sea cow, Great northern sea cow;
ชื่อวิทยาศาสตร์: Hydrodamalis gigas) เป็น
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลขนาดใหญ่
ชนิดหนึ่งใน
อันดับพะยูน (Sirenia) จัดเป็นเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ใน
สกุล Hydrodamalisวัวทะเลชเต็ลเลอร์จัดเป็นพะยูนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่เคยปรากฏมา มีความยาวเต็มที่ได้ถึง 8 เมตร น้ำหนักมากถึง 3 ตัน นับได้ว่ามีขนาดพอ ๆ กับ
วาฬเพชฌฆาต อาศัยอยู่เป็นฝูงเล็ก ๆ ในเขต
อาร์กติกและ
ช่องแคบเบริงซึ่งอยู่ระหว่าง
สหรัฐกับ
สหภาพโซเวียต เมื่อกลางปี ค.ศ. 2017 ได้มีค้นพบโครงกระดูกของวัวทะเลชเต็ลเลอร์ที่มีความสมบูรณ์ที่สุดที่ชายฝั่งทะเลของอุทยานธรรมชาติคอมมานดอร์สกีใน
ไซบีเรีย โดยซากนี้มีความยาว 5.2 เมตร ขาดเพียงส่วนหัวและกระดูกที่ต่อจากนั้น ซึ่งถ้าหากเป็นซากที่สมบูรณ์แล้วอาจจะยาวได้ถึง 6 เมตรวัวทะเลชเต็ลเลอร์ได้รับการค้นพบโดย
เกออร์ค วิลเฮ็ล์ม ชเต็ลเลอร์ นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ที่
หมู่เกาะคอมมานเดอร์ เมื่อ ค.ศ. 1741 จากการที่ชเต็ลเลอร์ได้ล่องเรือของกองทัพเรือรัสเซียที่นำโดยไวตัส เบริง ออกสำรวจน่านน้ำแถบนั้น และเรือได้ล่มลง ชเต็ลเลอร์ได้รอดชีวิตมาได้และอยู่จนผ่านพ้นฤดูหนาวและใช้เศษไม้ที่มาจากซากเรือต่อจนเป็นเรือลำใหม่ และออกล่องทะเลจนกระทั่งหาทางกลับมาได้ โดยขณะที่ติดเกาะอยู่นั้น ขณะนั้นหมู่เกาะคอมมานเดอร์ยังเป็นดินแดนที่ไม่มีใครอาศัยอยู่ และที่ปัจจุบัน คือ เกาะเบริง ซึ่งเป็นเกาะที่ชเต็ลเลอร์ได้ติดอยู่ ชเต็ลเลอร์ได้สังเกตเห็นวัวทะเลขนาดใหญ่ และได้เคยชำแหละซากด้วย จนกระทั่งได้บรรยายลักษณะตลอดจนอุปนิสัยเอาไว้ได้ จนกระทั่งได้ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อ
[2]เมื่อชเต็ลเลอร์และคณะเดินทางกลับ ข่าวการพบเจอวัวทะเลขนาดใหญ่ก็ได้แพร่กระจายไปทั่ว จนได้เกิดเป็นการล่าสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดในทะเลแถบนั้น และความที่เป็นสัตว์ขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีเนื้อและ
ไขมันปริมาณมาก จึงถูกล่าเพื่อเอาเนื้อ หนัง และไขมัน ทำให้วัวทะเลชเต็ลเลอร์ถูกฆ่าไปเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งใน ค.ศ. 1768 หรือเพียง 27 ปี หลังจากที่ได้เป็นที่รู้จัก วัวทะเลชเต็ลเลอร์ก็
สูญพันธุ์จนหมดสิ้น
[3][4]