สรรพคุณ ของ วากาเมะ

ด้านความงาม

  • ช่วยในการบำรุงผิวพรรณ สาหร่ายวากาเมะช่วยในการปรับสภาพผิว และเสริมสร้างกระบวนการทำงานของคอลลาเจนและอิลาสตินให้ดียิ้งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ระบบการไหลเวียนของน้ำหล่อเลี้ยงผิวหนังทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยในการปกป้องผิว สาหร่ายวากาเมะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ลดอาการระคายเคือง ลดความหยาบกร้านของผิว นอกจากนี้ยังช่วยในการปกป้องผิวจากมลภาวะอีกด้วย
  • ช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสาหร่ายวากาเมะจะเข้าไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการเผาผลาญไขมันสีขาวตามอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ในบริเวณพุง ต้นขา ต้นแขน เป็นต้น ซึ่งอวัยวะเหล่านี้มักจะเกิดการสะสมของไขมันสีขาวได้ง่ายกว่าอวัยวะส่วนอื่น ๆ [2]

ด้านสุขภาพ

  • ช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และช่วยลดความดันโลหิต พร้อมกับป้องกันภาวะหลอดเลือดในสมองแข็ง (Arteriosclerosis) รวมไปถึงการต่อสู้กับเนื้องอก และยังช่วยป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแข็งตัว
  • มีแคลเซียมสูงกว่านมถึง 14 เท่า การรับประทานสาหร่ายวากาเมะปริมาณ 50-100 กรัม จะเป็นการช่วยเสริมสร้างแคลเซียมให้กับร่างกายในปริมาณที่พอเหมาะใน 1 วัน นอกจากนี้สาหร่ายวากาเมะยังเหมาะสำหรับสตีมีครรภ์ที่ต้องการปริมาณแคลเซียมมากกว่าปกติ
  • ช่วยลดปัญหาท้องผูก สาหร่ายวากาเมะมีสภาพเป็น Salinity มีเกลือแมกนีเซียม หรืออัลคาไลน์ รวมไปถึงใยอาหาร ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นเหมือนกับยาระบายตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีใยอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก และยังมีกรดอาลิกนิคที่ช่วยทำให้ร่างกายเกิดการเร่งขับถ่ายสารพิษต่าง ๆ ในทางเดินอาหาร ให้ออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือด
  • ช่วยแก้ปัญหาทางอาการปวดอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น อาการปวดบั้นเอวปวดไหล่ บ่าแข็งตึง เป็นต้น ซึ่งเกิดขึ้นจากการไหลเวียนของเลือดที่บกพร่องไม่ปกติ
  • ช่วยในการบำรุงเลือด สาหร่ายวากาเมะมีส่วนประกอบของแร่ธาตุทองแดง และธาตุเหล็ก ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการบำรุงเลือด
  • ช่วยทำให้กล้ามเนื้อและระบบประสาททำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สาหร่ายวากาเมะมีส่วนประกอบของแม็กนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นในการบำรุงกล้ามเนื้อและระบบประสาท
  • ช่วยในการลดจำนวนกัมมันตภาพรังสีที่สู่ร่างกาย ผ่านการดูดซึมของลำไส้ได้ถึง 50-80% โดยมีกลุ่มตัวอย่างผู้รอดชีวิตจากการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่นางาซากิ ที่รับประทานสาหร่ายทะเลเป็นประจำ คนเหล่านี้ไม่มีใครที่เกิดอาการโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวขึ้นเลย แม้โรงพยาบาลจะอยู่ห่างจากจุดที่เกิดการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์เพียง 1 กม เท่านั้น
  • ช่วยกระตุ้นไขกระดูกให้สร้างเม็ดเลือดขึ้นใหม่ สาหร่ายวากาเมะมีสารรูติน ที่มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นไขกระดูกให้สร้างเม็ดเลือดขึ้นใหม่
  • ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัส
  • มีวิตามินบี 12 ซึ่งสามารถพบได้น้อยมากในพืชและผัก ซึ่งเป็นวิตามินชนิดหนึ่งที่รางกายของเราต้องการ[2]

ด้านการแพทย์

พบว่าในสาหร่ายวากาเมะนั้นมีสารอาหารต่าง ๆ มากมายทั้งโปรตีน พอลิแซ็กคาไรด์ เกลือแร่ วิตามินและยังมีไขมันในปริมาณน้อย[3] นอกจากนั้นยังมีสารอื่น ๆ อีกเช่น ฟูโคแซนทิน (Fucoxantin) ซึ่งในปัจจุบันมีการศึกษาถึงผลของสารชนิดนี้มากมายหนึ่งในนั้นคือ ฤทธิ์ในการต้านการเกิดความอ้วน (anti-obesity)

ฟูโคแซนทินเป็นสารแคโรตินอยด์ (carotenoid) ซึ่งเป็นสารที่ให้สีส้ม แดง หรือเหลือง ชนิดหนึ่งที่พบในปริมาณมากในสาหร่ายสีน้ำตาลรวมทั้งในสาหร่ายวากาเมะ โดย Maeda และคณะพบว่ากลไกในการเกิดฤทธิ์ในการต้านการเกิดความอ้วนนั้นเกิดจากการที่ฟูโคแซนทินกระตุ้นให้มีการสร้าง uncoupled protein-1 (UCP-1) ในเซลล์ไขมันสีขาว (White adipose tissue) ซึ่งปกติ UCP-1 นั้นจะมีหน้าที่ในการสลายไขมันเพื่อทำให้เกิดความร้อนในร่างกาย[4] โดยจะสามารถพบ UCP-1 ได้มากในเซลล์ไขมันสีน้ำตาล (brown adipose tissue) ซึ่งมีจำนวนน้อยในร่างกายคน โดย UCP-1 พบได้น้อยในเซลล์ไขมันสีขาวซึ่งพบเป็นส่วนมากในร่างกายมนุษย์[5] ดังนั้นการเพิ่ม UCP-1 จึงทำให้มีร่างกายมีการสลายไขมันมากขึ้น นอกจากนั้น Maeda และคณะยังได้ศึกษาในหนูทดลองโดยให้หนูทดลองกินอาหารที่มีไขมันสูงแล้วแบ่งเป็นสองกลุ่มคือกลุ่มที่ได้รับฟูโคแซนทินและกลุ่มที่ไม่ได้รับฟูโคแซนทินโดยติดตามน้ำหนักของหนูทดลองเป็นเวลา 5 สัปดาห์ พบว่าในกลุ่มหนูที่ได้รับฟูโคแซนทินมีน้ำหนักขึ้นน้อยกว่ากลุ่มหนูที่ไม่ได้รับฟูโคแซนทิน และพบว่ากลุ่มที่ได้รับฟูโคแซนทินมีน้ำหนักที่ใกล้เคียงกับหนูที่เป็นกลุ่มควบคุมที่ได้รับอาหารในแบบปกติอีกด้วย[6]

ใกล้เคียง