ศาสนามาณีกีแบบจีน (
จีน: 摩尼教;
พินอิน: Móníjiào) หรือเป็นที่รู้จักตาม
สำเนียงแต้จิ๋วว่า
เม้งก่า[1][2] (
จีน: 明教;
พินอิน: Míngjiào "ศาสนาแห่งแสงสว่าง") ในวรรณกรรมแปลเป็น
พรรคจรัส หรือ
นิกายเรืองโรจน์ ก็ว่า
[3] เป็น
ศาสนามาณีกีรูปแบบหนึ่งซึ่งตกทอดและได้รับการนับถือจากศาสนิกชนจีนผ่านการค้ากับโลกตะวันตกผ่านการ
พาณิชยนาวีและผ่าน
เส้นทางสายไหม พร้อม ๆ กับ
ศาสนาคริสต์นิกาย
เนสเทอเรีย[4] ซึ่งได้รับมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 9 ดังปรากฏหลักฐาน
เอกสารตุนหวงใน
ถ้ำมั่วเกา[5]ศาสนามาณีกีแบบจีนเป็นศาสนาที่มีลักษณะแบบ
เอกเทวนิยม มุ่งมาดปรารถนาให้บูชา
พระเจ้าเพียงองค์เดียวเรียกว่า
ซ่างตี้ (上帝 "มหาเทพ"), หมิงซุน (明尊 "ผู้สว่างไสว") หรือเจินเฉิน (真神 "ผู้เที่ยงแท้") พวกเขาเชื่อว่าพระเจ้าเป็นพระผู้สร้างสิ่งต่าง ๆ จากจิตวิญญาณที่มีชีวิตของพระองค์เอง ก่อให้เกิดสรรพสิ่งที่มีชีวิตเช่นมนุษย์ ซึ่งรวมไปถึง
พระมณี (摩尼) ซึ่งเป็นศาสดา
[6] ต่อมาได้มีการรับความเชื่อนอกศาสนาเข้ามาผสานจนมีรูปแบบเป็นของตนเอง
[7] รวมทั้งส่งอิทธิพลก่อให้เกิดศาสนาใหม่ขึ้น เช่น
ลัทธิเมตไตรยและ
ลัทธิบัวขาว และในขณะเดียวกันศาสนามาณีกีเองกลับกลืนกลายไปกับ
ศาสนาพุทธและ
ลัทธิเต๋าที่เฟื่องฟูกว่า หลังการปราบปรามศาสนาต่างด้าวเป็นต้นมา ศาสนามาณีกีก็อ่อนอิทธิพลลงและสูญหายไปในคริสต์ศตวรรษที่ 14
[8] ปัจจุบันมีศาสนิกชนจำนวนหนึ่งอ้างว่ายังนับถือศาสนามาณีกีหรือเม้งก่าอยู่
[9][10]แม้ศาสนามาณีกีแบบจีนสูญหายไปแล้ว แต่ปัจจุบันยังคงหลงเหลือจารีต ประเพณี และวัตรปฏิบัติของศาสนามาณีกีแบบจีนให้เห็นอยู่ เช่น การสวมชุดขาว หรือแม้แต่การรับประทาน
อาหารเจของชาว
ไทยเชื้อสายจีนใน
ประเทศไทย[2][11]