สถาปัตยกรรม ของ ศิลปะอยุธยา

สถาปัตยกรรมยุคที่หนึ่งนับตั้งแต่พระเจ้าอู่ทองสร้างกรุงศรีอยุธยานิยมสร้างปรางค์เป็นหลักประธานของวัด มีพระวิหารอยู่หน้าปรางค์ มีระเบียงคดล้อมรอบปรางค์ สถาปัตยกรรมยุคนี้ไม่มีหน้าต่าง แต่มีช่องลมแบบซี่ลูกกรงที่เรียกว่า เสามะหวด หรือบางแห่งทำแบบสันเหลี่ยมมีอกเลา

ยุคที่สองนิยมสร้างสถาปัตยกรรมแบบสุโขทัย โดยเฉพาะการสร้างเจดีย์ทรงกลม ที่เรียกว่า ทรงลังกา การสร้างอุโบสถ วิหาร มีความบึกบึน กว้างใหญ่ มีการยกฐานสูง นิยมมีพาไลด้านข้าง เช่น วัดหน้าพระเมรุ

ยุคที่สาม สมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงโปรดศิลปกรรมแบบเขมร ศิลปกรรมยุคนี้เริ่มมีหน้าต่างเปิดปิดได้ ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมแบบยุโรป มีการก่อสร้างซุ้มประตูหน้าต่างโค้งแหลมแบบกอทิก เช่น วัดกุฎีดาว อาคารต่าง ๆ เริ่มนิยมทำเป็นเส้นโค้งที่ฐานและหลังคา คงเป็นลักษณะสืบเนื่องมาแต่ครั้งศิลปะสมัยสุโขทัย การมุงกระเบื้องใช้กระเบื้องชนิดหางตัดและกระเบื้องชนิดกาบ มีกระเบื้องเชิงชายประกอบ มีการใช้กระเบื้องเคลือบครั้งแรกในแผ่นดินสมเด็จพระเพทราชา ยุคนี้ยังมีเจดีย์ที่เป็นแบบฉบับเรียกว่า เจดีย์ย่อเหลี่ยมไม้สิบสอง

ยุคที่สี่เป็นยุคที่มีการซ่อมแซมมากกว่าสร้างขึ้นใหม่ สถาปัตยกรรมนิยมเส้นฐานและเส้นหลังคาอ่อนโค้งเป็นแนวขนาน[1]