ที่มา ของ สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลี

อิตาลีตอนเหนือในยุคกลาง

เมื่อมาถึงปลายสมัยกลางทางตอนกลางและอิตาลีตอนใต้ที่เป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิโรมันก็จนลงกว่าทางเหนือ โรมเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างโบราณและรัฐสันตะปาปา (Papal States) ก็เป็นบริเวณการปกครองอย่างหลวม ๆ ที่แทบจะไม่มีกฎหมายหรือระบบแต่อย่างใดเพราะสำนักพระสันตะปาปาย้ายไปอยู่ที่อาวินยองโดยความกดดันของพระเจ้าฟิลิปที่ 4 แห่งฝรั่งเศส ทางด้านไต้เนเปิลส์, ซิซิลี และซาร์ดิเนียตกอยู่ภายใต้การปกครองของต่างประเทศมาระยะหนึ่งแล้วโดยอาหรับและต่อมาก็โดยนอร์มัน ซิซิลีมั่งคั่งขึ้นมาเป็นเวลาสองสามร้อยปีระหว่างการปกครองของเอ็มมิเรตแห่งซิซิลี (Emirate of Sicily) และเมื่อต้นสมัยราชอาณาจักรซิซิลีแต่มาเสื่อมโทรมลงเมื่อมาถึงปลายสมัยกลาง

ทางตอนเหนือกลายมามั่งคั่งกว่าทางไต้โดยมีอาณาจักรต่าง ๆ ทางตอนเหนือที่เป็นอาณาจักรที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรป สงครามครูเสดสร้างเส้นทางการค้าขายกับบริเวณลว้าน (Levant) และสงครามครูเสดครั้งที่ 4 ก็ทำลายจักรวรรดิไบแซนไทน์ผู้เป็นคู่แข่งทางการค้าขายชองเวนิสและสาธารณรัฐเจนัวเกือบหมดสิ้น เส้นทางการค้าขายหลักจากตะวันออกผ่านทะลุจักรวรรดิไบแซนไทน์หรือดินแดนอาหรับ และต่อไปยังเมืองท่าเจนัว, ปิซา และเวนิส สินค้าฟุ่มเฟือยที่หาซื้อได้จากบริเวณลว้านก็ถูกนำเช่นเครื่องเทศ, สีย้อมผ้า และไหมก็ถูกนำเข้ามายังอิตาลีและขายต่อไปยังยุโรป นอกจากนั้นนครรัฐ (city-state) ที่ไม่ได้อยู่ติดกับทะเลก็ได้รับผลประโยชน์จากการเกษตรกรรมในบริเวณลุ่มแม่น้ำโป

จากฝรั่งเศส, เยอรมนี และกลุ่มประเทศต่ำโดยเทศกาลสินค้าแชมเปญ (Champagne fairs), ทางบก และทางเรือ ก็นำสินค้าเช่นขนแกะ, ข้าวสาลี และโลหะมีค่าเข้ามาในอิตาลี บริเวณการค้าขายตั้งแต่อียิปต์ไปจนถึงบริเวณบอลติคทำให้อิตาลีเป็นแหล่งสินค้าที่เกินเลยที่ทำให้สามารถมีอำนาจในการลงทุนในการทำเหมืองและทำการอุตสาหกรรมได้ ฉะนั้นแม้ว่าทางเหนือของอิตาลีจะไม่ร่ำรวยทางทรัพยากรเมื่อเทียบกับส่วนอื่นของยุโรปแต่การพัฒนาที่เกิดจากการค้าขายเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความมั่งคั่ง ฟลอเรนซ์กลายเป็นเมืองที่มั่งคั่งที่สุดทางตอนเหนือของอิตาลีเพราะการผลิตผลิตภัณฑ์ผ้าภายใต้การควบคุมของสมาคมพ่อค้าผ้า “Arte della Lana” ขนแกะนำเข้าจากทางเหนือของยุโรปและในคริสต์ศตวรรษที่ 16 จากสเปน[1] โดยใช้สีย้อมผ้าจากตะวันออกที่ทำให้ผลิตผ้าที่มีคุณภาพสูงได้

นอกจากนั้นเส้นทางการค้าขายของอิตาลีที่รวมบริเวณเมดิเตอร์เรเนียนและไกลไปจากนั้นก็ยังเป็นที่มาของวัฒนธรรมและความรู้ ในสมัยกลางงานที่เป็นการศึกษาคลาสสิกของกรีกเริ่มเข้ามาสู่ยุโรปตะวันตกโดยงานแปลจากภาษาละตินเป็นภาษาอาหรับจากโทเลโดในสเปน และจากพาเลอร์โมในอิตาลีโดยเฉพาะในช่วงที่เรียกว่าสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาของคริสต์ศตวรรษที่ 12 หลังจากที่สเปนได้รับชัยชนะต่ออาหรับ (Reconquista) ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ก็ทำให้งานแปลจากภาษาอาหรับในสาขาวิชาทางวิทยาศาสตร์, ปรัชญา, และคณิตศาสตร์เผยแพร่เข้ามายังทางตอนเหนือของอิตาลี หลังจากการเสียเมืองคอนสแตนติโนเปิล (Fall of Constantinople) ในปี ค.ศ. 1453 ก็มีผู้คงแก่เรียนกรีกจำนวนมากที่ลี้ภัยเข้ามายังอิตาลีซึ่งเป็นชนวนที่ทำให้เกิดความสนใจในการศึกษาทางภาษาศาสตร์ระหว่างสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาและช่วยฟื้นฟูสถาบันการศึกษาในฟลอเรนซ์และเวนิส นักมนุษยนิยมเที่ยวค้นหาในห้องสมุดของสำนักสงฆ์เพื่อหาหนังสือโบราณและพบงานของนักประพันธ์ภาษาละตินสำคัญ ๆ มากมายเช่นแทซิทัส นอกจากนั้นก็ยังพบทฤษฎีพื้นฐานทางสถาปัตยกรรมของวิทรูเวียส สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้ความเจริญทางวัฒนธรรมในด้านต่าง ๆ รุ่งเรืองขึ้น

ใกล้เคียง