เมนูนำทาง
สมเด็จพระสุคนธาธิบดี_(ปาน_ปญฺญาสีโล) พระประวัติสมเด็จพระสุคนธาธิบดี มีพระนามเดิมว่าปาน หรือ ปาง ประสูติในวันพฤหัสบดี แรม 1 ค่ำ เดือน 12 (เดือนกัตติกะ) ปีจอ พ.ศ. 2370 ในหมู่บ้านแพรก พระเสด็จ จังหวัดพระตะบอง ไม่ปรากฏนามบิดามารดา แต่บิดามารดาของท่านได้หนีไปอาศัยอยู่ในจังหวัดพระตะบอง เนื่องจากออกญาเดโช (แทน) ก่อการจลาจล เมื่ออายุได้ 12 ปี จึงบวชเป็นสามเณรที่วัดโพธิ์ ตำบลสังแก จังหวัดพระตะบอง ในคณะมหานิกาย แล้วได้เข้ามากรุงเทพ อยู่ที่วัดสระเกศ คณะมหานิกาย
ต่อมาเมื่ออายุ 21 ปี จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ คณะมหานิกายจำพรรษาที่วัดสระเกศได้ 4 พรรษา เวลานั้นได้ถวายตัวเป็นศิษย์พระวชิรญาณเถระ (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) โปรดให้ศึกษาพระวินัยในสำนักเจ้าคุณพระญาณรักขิต (สุด) เจ้าอธิการวัดบรมนิวาส คณะธรรมยุตินิกาย
ต่อมาในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 (เดือนอาสาฬหะ) ปีระกา เอกศก พ.ศ. 2393 ค.ศ.1849 พระปานอายุ 24 ปี จึงบวชแปลงเป็นพระธรรมยุตินิกาย โดยมีพระวชิรญาณเถระเป็นพระอุปัชฌาย์ พระญาณรักขิต (สุด) เป็นกรรมวาจารย์ พระอมราภิรักขิต (เกิด) เป็นอนุสาวนาจารย์ มีฉายาว่า "ปัญญาสีโล" ต่อมาสอบได้ความรู้เป็นเปรียญธรรมเป็น "พระมหาปาน"
ในปี พ.ศ. 2398 สมเด็จพระหริรักษรามา (พระองค์ด้วง) ขอพระราชทานธรรมยุตินิกายเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาธรรมยุตินิกายในกัมพูชา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดให้พระมหาปานพร้อมด้วย พระอมราภิรักขิต (เกิด) และพระสงฆ์ 8 รูป อุบาสก 4 คน เดินทางไปสืบศาสนายังกรุงกัมพูชา สมเด็จพระหริรักษ์รามาอิศราธิบดี ทรงนิมนต์พระมหาปานให้จำพรรษาอยู่ที่วัดศาลาคู่ (วัดอ์พิลปี) กรุงอุดงค์มีชัย พระมหาปาน ได้เลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระอริยวงศ์ พระวิมลธรรม พระมหาวิมลธรรม ตามลำดับ ภายเป็นหลังเป็นสมเด็จพระสุคนธาธิบดี[1]
สมเด็จพระสุคนธาธิบดี (ปาน) เป็นกวีและปราชญ์ในราชสำนักสมเด็จพระหริรักษรามาธิศราธิบดี กับสมเด็จพระนโรดม ผลงานนิพนธ์ของท่านหลายเรื่องตกทอดมาถึงปัจจุบัน เช่น รบากษัตริย์ (พระราชพงศาวดารกรุงกัมพูชา) ที่แต่งร่วมกับออกญาสุนธรโวหาร (มุก) และลเบิกอังกอร์วัดแบบเก่า (เลฺบีกองฺครวตฺตแบบจาส่) สมเด็จพระสุคนธาธิบดี (ปาน) สิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. 2437 พระชนม์ได้ 68 พรรษา ตรงกับรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวของไทยและสมเด็จพระนโรดม (พระองค์ราชาวดี) ของกัมพูชา
บทบาทของสมเด็จพระสุคนธาธิบดี (ปาน) กับการสื่อสารทางการเมืองของไทย เกิดขึ้นตอนที่ พระอมราภิรักขิต (อมโร เกิด) พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ของไทย และในฐานะพระคู่สวด ของพระมหาปานขณะบวชที่วัดบรมนิวาส ที่กรุงเทพมหานคร โดยสมณสาส์นฉบับนี้เป็นการสอบถามข่าวคราวเกี่ยวกับประเทศกัมพูชาภายหลังจากตกเป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศส โดยได้ใช้การอ้างอิงข้อความจากพระไตรปิฎกมาเป็นตัวอย่างเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ของประเทศกัมพูชาในเวลานั้น สมณสาส์นฉบับนี้จึงมีความสำคัญในแง่ที่แสดงให้เห็นถึงความคิดของชนชั้นนำของสังคมไทย (โดยเฉพาะกลุ่มพระสงฆ์) ที่มีต่อกัมพูชาเมื่อตกเป็นรัฐอารักขาของฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดี [2] แม้จะไม่มีหลักฐานว่าสมเด็จพระสุคนธาธิบดี จะตอบคำถามจดหมายสมณสาส์น หรือไม่ ? / แต่สาระสำคัญทำให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างพระพุทธศาสนาไทยและกัมพูชา รวมไปถึงบทบาทของพระสุคนธาธิบดี (ปาน) ในฐานะสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายธรรมยุติกนิกายรูปแรกในประเทศกัมพูชาด้วยเช่นกัน
พระอมราภิรักขิต (เกิด อมโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดบรมนิวาส ผู้เป็นกัลยาณมิตรกับสมเด็จพระสุคนธาธิบดี (ปาน)เมนูนำทาง
สมเด็จพระสุคนธาธิบดี_(ปาน_ปญฺญาสีโล) พระประวัติใกล้เคียง
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกแหล่งที่มา
WikiPedia: สมเด็จพระสุคนธาธิบดี_(ปาน_ปญฺญาสีโล) http://gps.mcu.ac.th/wp-content/uploads/2016/09/%E... https://www.tci-thaijo.org/index.php/NAJUA/article...