พระราชประวัติ ของ สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี

พระชนม์ชีพช่วงต้น

สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2377 เป็นพระธิดาพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ ต้นราชสกุลศิริวงศ์ (พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวกับเจ้าจอมมารดาทรัพย์)[1] พระชนนีคือหม่อมน้อย[2][3] สตรีชาวบางเขนที่มีเชื้อสายอำมาตย์รามัญกับไทย[4] เป็นธิดาคนหนึ่งของนายบุศย์ ชาวบางเขน[4][5] ซึ่งไม่ปรากฏวงศ์ตระกูล กับคุณแจ่ม[6] หลานสาวของอำมาตย์มอญ คือพระยารัตนจักร (หงส์ทอง สุรคุปต์)[4] (สมิงสอดเบา หัวเมืองหน้าครัวมอญ) คุณม่วงมารดาของคุณแจ่มเป็นน้องสาวต่างมารดาของเจ้าจอมมารดาป้อม ในรัชกาลที่ 1, เจ้าจอมเพ็ง ในรัชกาลที่ 2 และเจ้าจอมมารดาเอม ในรัชกาลที่ 2[7] บางแหล่งข้อมูลก็ว่า คุณแจ่มเป็นธิดาของพระยารัตนจักร[8]

พระองค์มีเจ้าพี่เจ้าน้องต่างมารดา 8 องค์[9][10][11]

เมื่อทรงพระเยาว์ ได้เข้ามาประทับอยู่กับพระองค์เจ้าละม่อม พระปิตุจฉา เพื่อฝึกหัดถวายงานพัด และพระองค์ก็สามารถพัดได้ถูกพระทัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ถึงกับโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามแก่หม่อมเจ้าหญิงนี้ว่า รำเพย[12] อันมีความหมายว่า "ลมเย็นที่พัดค่อยๆ อ่อน ๆ"[13] มีเรื่องเล่ากันว่าพระภิกษุพระศรีสุทธิวงศ์ได้ไปยังประเทศศรีลังกา และขากลับได้นำเอาต้นไม้ชนิดหนึ่งเข้าถวายแก่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดไม้นั้นมาก จึงได้พระราชทานชื่อไม้นั้นว่า รำเพย ตามพระนามของพระราชนัดดา[13]

พระมเหสี

เมื่อสมเด็จพระนางนาฏบรมอรรคราชเทวีในรัชกาลที่ 4 เสด็จสวรรคต จึงไม่มีพระราชนัดดาฝ่ายในในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวที่เป็นพระองค์เจ้าเหลืออยู่ ในวันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2395 (นับแบบปัจจุบันเป็น พ.ศ. 2396) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดให้สถาปนาหม่อมเจ้ารำเพยเป็น พระองค์เจ้ารำเพยภมราภิรมย์[14][2] ซึ่งมีความหมายว่า "บุปผชาติที่เป็นที่ยินดีและเป็นที่พักพิงของมวลหมู่ภมร"[13] ต่อมาพระราชวงศ์และเสนาบดีได้ถวายให้เป็นพระมเหสี[15] ซึ่งประกาศในรัชกาลที่ 4 ออกพระนามว่าสมเด็จพระนางนาถราชเทวี[16]

สมเด็จพระนางนาถราชเทวีประชวรพระยอดเม็ดเล็ก ทรงพระกาสะเป็นพระโลหิตปนเสมหะออกมา ทรงพระประชวรอยู่หลายเดือนจนสิ้นพระชนม์เมื่อวันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2404 สิริพระชนมายุได้ 28 พรรษา[17] หลังจากนั้นประกาศการพระราชพิธีลงสรงโสกันต์พระเจ้าลูกเธอ จ.ศ. 1224 ได้ออกพระนามพระองค์ว่า พระนางเธอพระองค์เจ้ารำเพยภมราภิรมย์[18] ต่อมาประกาศพระราชพิธีโสกันต์สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ จ.ศ. 1227 ออกพระนามว่า สมเด็จพระนางเธอ พระองค์เจ้ารำเพยภมราภิรมย์[15] และพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 4 ออกพระนามว่าสมเด็จพระนางรำเพยภมราภิรมย์[19]

ต่อมาวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2411 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระบรมราชชนนีขึ้นเป็นกรมสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์[20] และในรัชกาลที่ 6 ทรงสถาปนาพระบรมอัฐิเป็น สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี[2]

การประชวรและการสวรรคต

พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ทรงฉายพระราชทานเป็นบรรณาการแก่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2399 ปัจจุบันเก็บรักษาที่สถาบันสมิธโซเนียน สหรัฐ

นับตั้งแต่พระราชโอรสองค์เล็กประสูติ พระองค์ก็ประชวรมากแต่ก็ตรัสว่า "ไม่เป็นอะไรมากหรอก" แม้จะทรงกาสะ (ไอ) มากก็ตาม พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชหัตถเลขาเกี่ยวกับพระอาการประชวรของพระองค์ไว้ดังนี้

“…แต่แม่รำเพย ตั้งแต่คลอดบุตรชายภาณุรังษีสว่างวงศ์มาแล้ว ป่วยให้ไอและซูบผอมมากไป กลัวจะตั้งวัณโรคภายใน”

อีกฉบับหนึ่ง ทรงบรรยายถึงการสิ้นพระชนม์ไว้อย่างละเอียดดังนี้

“…เวลาเช้าแม่รำเพยไออาเจียนเป็นโลหิตออกมามาก ออกทางจมูกออกทางปาก ได้ตัวสัตว์ออกมากับทั้งโลหิตตัวหนึ่ง มีอาการคล้ายสัตว์ตัวหนอนเล็กหางเป็นสามแฉก แต่หมอยังแก้ไขก็ค่อยคลายมา โลหิตออกบ้างเล็กน้อยจางไปแล้ว"

“ครั้น ณ วันอาทิตย์ขึ้น 4 ค่ำ เดือนสิบ เวลากลางคืน เธอว่าค่อยสบายไอห่างไป นอนหลับได้มาก ตั้งแต่สามยามไปจนถึงสามโมงเช้า ครั้น ณ วันจันทร์ ขึ้นห้าค่ำ เดือนสิบ ตื่นขึ้นอีกเวลาสามโมงเช้า รับประทานอาหารได้ถ้วยฝาขนาดใหญ่ แล้วนั่งเล่นอยู่กับบุตรเล็ก ไอเป็นโลหิตออกมา แล้วก็เป็นโลหิตพลุ่งพล่านมากเป็นที่สุด ออกทั้งทางจมูกทางปาก หลายถ้วยแก้วกระบอก ไม่มีขณะหายใจ พอโลหิตมากแล้วชีพจรทั้งตัวก็หยุดทีเดียวไม่ฟื้นเลย ได้รับประทานจัดการไว้ศพ ในโกศตั้งไว้ที่ตึกต้นสน แต่ตกแต่งตึกเสียใหม่ให้งามดี เพดานและบานประตู บานหน้าต่างปิดลายเงิน ฝาผนังปิดกระดาษลาย และตกแต่งสิ่งอื่นมากพอสมควร ครั้นจะยกขึ้นไปไว้บนพระมหาปราสาท เห็นว่าจะกีดขวางการพระราชพิธีไม่พอที่ แต่เท่านั้นก็ดีอยู่แล้ว ศพจะเอาไว้นาน ต่อเดือนสี่เดือนห้าจึงจะได้เผา เดี๋ยวนี้ก็รับประทานทำบุญต่าง ๆ มีเทศนาและบังสุกุลอยู่เนือง ๆ …ที่ให้เป็นอนุเคราะห์แก่ชายจุฬาลงกรณ์ หญิงจันทรมณฑล ชายจาตุรนต์รัศมี ชายภาณุรังษีสว่างวงศ์ บุตรแม่เพยทั้งสี่ก็มีบ้าง กระหม่อมฉันคิดขอบบุญขอบคุณท่านทั้งปวงครั้งนี้นั้นหนักหนา แม่เพยตายลงครั้งนี้ เมื่อดูอาการก็ควรจะตายอยู่แล้ว ด้วยป่วยโรคนี้มาตั้งแต่เสาะแสะมาถึงห้าปี ตั้งแต่ปีมะเส็งมารักษาก็หลายหมอหลายยาแล้ว ไม่หาย จึงเห็นว่าถึงคราวที่จะสิ้นอายุตายอยู่แล้ว"

“อายุนับปี เท่ากับกรมหมื่นมาตยาพิทักษ์บิดานั้น เหมือนกับชายมงคลเลิศซึ่งเป็นพี่ชายว่าโดยละเอียดไป กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ มีอายุนับวันตั้งแต่วันเกิดจนวันตายได้ 9,639 วัน ชายมงคลเลิศนับอายุตั้งแต่วันเกิดจนวันตาย 9,903 วัน มากกว่ากรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ 284 วัน มากกว่าชายมงคลเลิศ 20 วัน”

หลังจากการเสด็จสวรรคต ได้มีการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานพระเพลิงพระบรมศพ ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในวันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2405 (วันแรม 4 ค่ำ เดือน 5)[21] โดยพระราชพิธีนี้ ได้มีการริเริ่มการจัดพิธีกงเต็กหลวงขึ้นครั้งแรก จึงมีการจัดพิธีกงเต็กหลวงสืบมา[22]

ใกล้เคียง

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

แหล่งที่มา

WikiPedia: สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี http://www.monstudies.com/show_content.php?topic_i... http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetail.asp?st... http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetail.asp?st... http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetail.asp?st... http://www.supadisdiskul.com/familytree06.html http://tawanth.wordpress.com/2009/06/30/%E0%B9%80%... http://www.oknation.net/blog/print.php?id=248217 http://www.debsirinalumni.org/history.php?id_his=1... http://www.kingdom-siam.org/queen-f-b.html http://vajirayana.org/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%...