การล่มสลายของกลุ่มขันที ของ สิบขันที

การสังหารหมู่ขันที
เป็นส่วนหนึ่งของ ยุคสิ้นราชวงศ์ฮั่น
วันที่22 กันายายน ค.ศ. 189[17]
สถานที่ลกเอี๋ยง (ลั่วหยาง)
ผลลัพธ์ฝ่ายขันทีถูกกำจัด
คู่ขัดแย้ง
ฝ่ายขันทีกองกำลังร่วมของขุนศึก
ผู้บัญชาการหรือผู้นำ
สิบขันทีโฮจิ๋น  
อ้วนเสี้ยว
โจโฉ
ตั๋งโต๊ะ
กำลังพลสูญเสีย
2,000+[18]ไม่ทราบ

เมื่อพระเจ้าเลนเต้ทรงประชวรหนักในปี ค.ศ. 189 ได้ทรงฝากฝังหองจูเหียบ (劉協 หลิวเสีย) พระราชโอรสองค์รองซึ่งขณะนั้นมีพระชนมายุแปดพรรษาไว้กับขันทีคนสนิทชื่อเกียนสิด (蹇碩 เจี่ยนชั่ว) เมื่อพระเจ้าเลนเต้สวรรคต เกียนสิดคิดการจะยกหองจูเหียบขึ้นสืบราชบัลลังก์แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ หองจูเปียน (劉辯 หลิวเปียน) พระราชโอรสองค์โตในพระเจ้าเลนเต้พระชนมายุสิบสามพรรษาขึ้นครองราชย์แทนในพระนามว่าพระเจ้าเช่าตี้ (漢少帝 ฮั่นเช่าตี้) สมเด็จพระพันปีหลวงโฮเฮา (พระราชมารดาของพระเจ้าเช่าตี้) และผู้บัญชาการทหารสูงสุดโฮจิ๋น (พี่ชายของโฮเฮา) ได้ขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนยุวกษัตริย์ [19][20]

ในฤดูร้อนของปี ค.ศ. 189 หลังจากเกียนสิดได้ทราบว่าโฮจิ๋นและผู้ใต้บังคับบัญชาวางแผนจะกำจัดตน จึงพยายามชักชวนขันทีด้วยกันให้ร่วมแผนในการกำจัดโฮจิ๋น แต่ขันทีก๊กเสง (郭勝 กัวเซิ่ง) ซึ่งเป็นคนสนิทของนางโฮเฮาได้หว่านล้อมให้ขันทีเหล่านั้นให้ปฏิเสธไม่ร่วมแผนกับเกียนสิด หลังจากนั้นโฮจิ๋นจับตัวเกียนสิดได้แล้วนำตัวไปประหารชีวิต แล้วโฮจิ๋นก็ได้เข้าควบคุมหน่วยทหารที่เคยอยู่ใต้บัญชาของเกียนสิด [21] ในฤดูใบไม้ร่วงของปี ค.ศ. 189 อ้วนเสี้ยวเสนอกับโฮจิ๋นให้กำจัดกลุ่มขันทีแล้วรวบอำนาจ นางโฮเฮาไม่เห็นด้วยกับแผนนี้ ฝ่ายเหล่าขันทีได้ติดสินบนนางบูยงกุ๋น (舞陽君 อู่หยางจฺวิน) มารดาของนางโฮเฮา และโฮเบี้ยว (何苗 เหอเหมียว) น้องชายของนางโฮเฮาเพื่อให้ทั้งสองช่วยปกป้องพวกตน ทั้งนางบูยงกุ๋นและโฮเบี้ยวจึงต่อต้านแผนการของโฮจิ๋นเช่นกันโดยอ้างว่าพวกตนเป็นหนี้บุญคุณพวกขันทีเป็นอย่างมาก (เพราะที่นางโฮเฮาได้เป็นพระสนมในพระเจ้าเลนเต้ก็ด้วยการช่วยเหลือของเหล่าขันที)[22]

หลังจากนั้น โฮจิ๋นรับฟังอีกคำแนะนำของอ้วนเสี้ยวที่ให้โฮจิ๋นลอบเรียกขุนศึกหรือขุนนางฝ่ายทหารจากหัวเมืองต่างๆ (ได้แก่ ตั๋งโต๊ะ อองของ เตียวโป้ และเต๊งหงวน) ให้นำกำลังเข้าประชิดราชธานีลกเอี๋ยงแล้วเรียกร้องให้นำตัวเหล่าขันทีไปประหารชีวิต หมายจะกดดันนางโฮเฮาให้ดำเนินการจัดการกับเหล่าขันที ตอนแรกนางโฮเฮาปฏิเสธที่ทำร้ายเหล่าขันที แต่เมื่อกำลังของตั๋งโต๊ะเข้ามาใกล้เมืองลกเอี๋ยง นางโฮเฮาจึงมีพระราชเสาวนีย์ให้เหล่าขันทีออกจากพระราชวังกลับไปยังเขตศักดินาของตน [23] น้องสาวของนางโฮเฮาแต่งงานกับบุตรบุญธรรมของเตียวเหยียง เตียวเหยียงจึงทูลขอร้องนางโฮเฮาให้ทรงช่วยเหลือ นางโฮเฮาจึงทรงแจ้งนางบูยงกุ๋นผู้เป็นมารดาผู้ซึ่งก็ขอร้องนางโฮเฮาเช่นเดียวกัน นางโฮเฮาจึงยอมผ่อนปรนและเรียกเหล่าขันทีกลับเข้ามาในพระราชวัง [24]

ในเดือนแปดของปี ค.ศ. 189 เหล่าขันทีวางแผนจะลอบสังหารโฮจิ๋น จึงออกพระราชเสาวนีย์ในพระนามของนางโฮเฮาเรียกให้โฮจิ๋นเข้าวังเพื่อเข้าเฝ้านางโฮเฮา โฮจิ๋นหลงกลจึงสิ้นชีพด้วยน้ำมือของเหล่าขันทีผู้ซึ่งประกาศว่าโฮจิ๋นมีความผิดฐานคิดการกบฏ[25] หลังจากโฮจิ๋นเสียชีวิต เง่าของ (吳匡 อู๋คฺวัง) และจางจาง (張璋) ผู้ใต้บังคับบัญชาของโฮจิ๋น พร้อมด้วยอ้วนเสี้ยว โจโฉ และคนอื่น ๆ ได้นำกำลังบุกเข้าไปในพระราชวังและสังหารเหล่าขันทีเพื่อแก้แค้นให้โฮจิ๋น โดยทำการสังหารใครก็ตามที่ดูคล้ายขันทีโดยไม่พิจารณาให้ถี่ถ้วน ชายวัยหนุ่มบางคนที่ไม่มีหนวดเคราจึงจำใจต้องถอดกางเกงตัวเองต่อหน้าทหารเพื่อพิสูจน์ว่าตนไม่ใช่ขันที ในระหว่างการโจมตีนั้น เหล่าขันทีเข้าควบคุมตัวนางโฮเฮา พระเจ้าเช่าตี้ (หองจูเปียน) และตันลิวอ๋อง (หองจูเหียบ) เป็นตัวประกันและพยายามหนีออกจากพระรางวัง โลติดได้เข้าขวางขันทีต๋วนกุย (段珪 ตฺวั้นกุย) ช่วยเหลือนางโฮเฮาจากขันทีต๋วนกุยไว้ได้ [26] โฮเบี้ยวผู้เป็นใจด้วยเหล่าขันทีถูกสังหารโดยเง่าของและตั๋งบุ่น (董旻 ต่งหมิน) น้องชายของตั๋งโต๊ะ ในการโจมตีครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตกว่าสองพันคน[18]

เตียวเหยียงและขันทีคนอื่น ๆ อีกสิบคนคุมตัวพระเจ้าเช่าตี้และตันลิวอ๋องไปยังริมแม่น้ำ กำลังทหารหลวงนำโดยโลติดและบินของ (閔貢 หมิ่นก้ง) เร่งตามมาจวนจะถึงตัว เตียวเหยียงจึงหันไปทูลพระเช่าตี้ทั้งน้ำตาว่า "พวกข้าพระองค์จะถูกกำจัดและความวุ่นวายจักเกิดขึ้นในแผ่นดิน ขอพระองค์โปรดถนอมพระวรกายด้วย" จากนั้นเตียวเหยียงจึงโดดลงแม่น้ำจมน้ำตาย [27][28]