ในรัชสมัยสุมาเอี๋ยน ของ สุมาเล่าจี๋

หลังจากสุมาเอี๋ยนจักรพรรดิแห่งราชวงศ์จิ้นขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ. 266 สุมาเล่าจี๋ก็ได้รับยศเป็นขุนพลพิทักษ์ภาคตะวันออก (鎮東將軍 เจิ้นตงเจียงจฺวิน) และขึ้นมามีบรรดาศักดิ์ชั้นโหว (侯)[33] จักรพรรดิสุมาเอี๋ยนทรงเห็นว่าสุมาเล่าจี๋เป็นคนซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาและไม่เคยซื้อบ้านเป็นของตนเอง จึงทรงส่งทหารไปสร้างบ้านห้าสิบหลังให้กับสุมาเล่าจี๋[34] ต่อมาสุมาเล่าจี๋เข้าสู่วัยชราจึงขอเกษียณอายุราชการ สุมาเล่าจี๋ถวายฎีกานับสิบฉบับ ท้ายที่สุดสุมาเล่าจี๋ได้รับการตั้งเป็นที่ปรึกษาผู้ใหญ่ราชสำนัก (光祿大夫 กวางลู่ต้าฟู) ได้รับตำแหน่งพิเศษ ได้รับพระราชทานเจ้าหน้าที่และทหารผู้ติดตาม มีรถม้าจอดรอรับหน้าประตูบ้าน[35]

เมื่อเอียวเก๋าได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนพลทหารม้าและรถรบ (車騎將軍 เชอฉีเจียงจฺวิน) ในปี ค.ศ. 269 เอียวเก๋าต้องการจะสละตำแหน่งให้กับสุมาเล่าจี๋โดยกล่าวว่า "เล่าจี๋โดยตลอดมาเป็นคนซื่อสัตย์ จิตใจบริสุทธิ์ มีความต้องการน้อย ถ่อมตนแต่ไม่เคยคล้อยตามโดยไม่ไตร่ตรองก่อน อุทิศตนต่อหน้าที่จนผมขาว และภักดีต่อราชสำนักตั้งแต่ต้นจนปลาย แต่ท่านไม่ได้รับเกียรตินี้ ในขณะที่ตำแหน่งของข้าพระพุทธเจ้าได้แซงขึ้นเหนือท่านแล้ว จะขจัดความแค้นเคืองของผู้คนในแผ่นดินต่อข้าพระพุทธเจ้าได้อย่างไร" แต่สุมาเอี๋ยนไม่ทรงฟังคำทูลของเอียวเก๋า[36]

สุมาเล่าจี๋เสียชีวิตในปี ค.ศ. 273 ขณะอายุ 84 ปี (ตามการนับอายุแบบเอเชียตะวันออก)[37] สุมาเอี๋ยนทรงพระราชทานสมัญญานามแก่สุมาเล่าจี๋ว่าเจิน (貞; มีความหมายว่า "บริสุทธิ์") และพระราชทานสุสานสำหรับฝังศพพื้นที่ 100 หมู่ (畝)[38]