ประวัติสุสาน ของ สุสานบ้านพรุ

โซนป้ายหลุมศพรุ่นเก่าในช่วงยุคแรก ๆ ของสุสาน

ในอดีตบริเวณพื้นที่สุสานบ้านพรุปัจจุบัน เป็นสวนยางพาราเก่าซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวบ้านพรุ จนเมื่อขุนนิพัทธ์จีนนครได้เข้ามาซื้อที่ดิน แล้วบริจาคเป็นสถานที่สำหรับการฌาปนกิจชาวจีนที่เข้ามาตั้งรกรากในหาดใหญ่ ซึ่งมีมูลเหตุมาจากการสร้างทางรถไฟสายใต้จนเมื่อมาสิ้นสุดบริเวณสถานีชุมทางหาดใหญ่ ซึ่งเป็นชุมทางหลักของภาคใต้ แรงงานชาวจีนส่วนใหญ่จึงเลือกมาปักหลักตั้งถิ่นฐานที่อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งในขณะนั้นเป็นชุมชนขนาดเล็ก ในเวลานั้นขุนนิพัทธ์จีนนคร หัวหน้าแรงงานชาวจีน ได้เป็นผู้สร้างถนนนิพัทธ์อุทิศ 1,2,3 ในรูปแบบกริดตารางขนานไปกับสถานีชุมทางหาดใหญ่ทางทิศตะวันออก เมื่อปี พ.ศ. 2459 ทำให้เกิดการสร้างตึกแถวพาณิชยกรรมตลอดแนวถนนทั้ง 3 สายนี้ อันเป็นการบุกเบิกพัฒนาเมืองหาดใหญ่ที่สำคัญ ทำให้หาดใหญ่กลายเป็นเมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ในเวลาต่อมา[6][7]

ขุนนิพัทธ์จีนนครได้ทำการซื้อที่ดินในชุมชนบ้านพรุ เพื่อบริจาคสร้างสุสานแก่ชาวจีนที่เสียชีวิตในหาดใหญ่ จำนวน 180 ไร่ เมื่อปี พ.ศ. 2482 โดยให้มูลนิธิจงฮั่วสงเคราะห์คนชราอนาถาเป็นผู้ดูแลรักษา ภายในสุสานจึงประกอบด้วยศพชาวจีนทั้งศพไร้ญาติ และศพมีตระกูล โดยศพไร้ญาติจะเป็นการฌาปนกิจในลักษณะการกุศล ส่วนศพมีตระกูลจะเป็นรูปแบบของการขายฮวงซุ้ย ในเวลาต่อทางมูลนิธิก็ได้จัดซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีกประมาณ 31 ไร่ ทางทิศเหนือซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้มีการขายฮวงซุ้ยเพิ่มเติม

ในส่วนกรรมสิทธิ์สุสานมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง ก่อตั้งขึ้นราวปี พ.ศ. 2511 ต่อเนื่องจากส่วนสุสานมูลนิธิจงฮั่วสงเคราะห์คนชราอนาถไปทางใต้ โดยมีการใช้แนวรั้วและแนวถนนเชื่อมต่อกัน ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นสุสานที่มีเจ้าของเพียงรายเดียว สุสานของมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง มีการจัดการที่ค่อนข้างเป็นระบบมากกว่าของมูลนิธิจงฮั่ว จากการวางแถวของฮวงซุ้ยที่มีขนาดกลาง ๆ และขนาดใหญ่วางเป็นแถวชัดเจน แสดงถึงสภาพเศรษฐกิจของสังคมหาดใหญ่ยุคนั้นที่ชาวจีนประกอบอาชีพจนมีฐานะร่ำรวย มากขึ้นกว่าชาวจีนในช่วงยุคแรก ๆ ที่จะทำฮวงซุ้ยขนาดเล็ก และไม่ตกแต่งป้ายหลุมมาก แม้ว่าภาพรวมมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊งจะเน้นขายฮวงซุ้ยเป็นหลัก แต่ก็มีการฮวงซุ้ยสำหรับศพไร้ญาติ รวมถึงหลุมบรรจุอัฐิไร้ญาติรวมขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าโครงการ

ในปี พ.ศ. 2558 ทางมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊งได้เปิดให้คนภายนอกเข้ามาใช้งานในเชิงกิจกรรมนันทนาการพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย โดยทางมูลนิธิมีการจัดสรรเครื่องออกกำลังกาย เครื่องเล่น และลานแอโรบิกไว้รองรับ ซึ่งก็พบว่ามีประชาชนส่วนหนึ่งเข้ามาใช้งานในช่วงและช่วงเย็น ทั้งการเล่นฟุตบอล เล่นเครื่องออกำลังกาย เลี้ยงปลา เต้นแอโรบิก และวิ่ง สุสานแห่งนี้มีการเปิดไฟในช่วงเย็นจนถึง 20.00 น. นอกจากนี้ในบางโอกาสสุสานแห่งนี้ก็เป็นสถานที่จัดกิจกรรมเช่นวิ่งมาราธอน หรือปั่นจักรยาน เนื่องจากระบบสัญจรภายในสุสานมีระยะค่อนข้างไกล การเปิดสุสานให้คนภายนอกเข้ามาใช้นี้ มีรูปแบบคล้ายกับสวนสุขภาพสมาคมแต้จิ๋ว ในเขตสาทร กรุงเทพมหานคร

ใกล้เคียง

สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร สุสานหลวงราชวงศ์โชซ็อน สุสานหิ่งห้อย สุสานแต้จิ๋ว สุสานพระเยซู สุสานบ้านพรุ สุสานอาร์มีเนียในจุลฟา สุสานหลวงมูซาชิ สุสานใต้ดินกาปูชิน

แหล่งที่มา

WikiPedia: สุสานบ้านพรุ http://maps.google.com/maps?ll=6.9583506,100.47549... http://www.multimap.com/map/browse.cgi?lat=6.95835... http://www.songkhlamedia.com/media/index.php?topic... http://www.terraserver.com/imagery/image_gx.asp?cp... http://www.globalguide.org?lat=6.9583506&long=100.... http://www.wikimapia.org/maps?ll=6.9583506,100.475... //tools.wmflabs.org/geohack/geohack.php?pagename=%... https://www.hatyaifocus.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%... https://www.hatyaifocus.com/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%... https://www.silpa-mag.com/history/article_42351