สเปนภายใต้การนำของฟรังโก (
สเปน: España franquista) หรือ
ระบอบฟรังโก (
สเปน: Régimen de Franco) ยังเรียกอีกอย่างที่เป็นทางการว่า
รัฐสเปน (
สเปน: Estado Español), เป็นช่วงเวลาของประวัติศาสตร์ชาติสเปนในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1939 เมื่อ
ฟรันซิสโก ฟรังโกได้เข้ามาควบคุมประเทศสเปนภายหลัง
ฝ่ายสเปนชาตินิยมได้รับชัยชนะใน
สงครามกลางเมืองสเปนซึ่งได้ก่อตั้งระบอบเผด็จการ และในปี ค.ศ. 1975 เมื่อฟรังโกได้เสียชีวิตลงและ
เจ้าชายควน การ์โลสได้ขึ้นครองราชย์เป็น
พระมหากษัตริย์สเปน ในช่วง
สงครามโลกครั้งที่สอง การเข้าร่วมสงครามต่อฝ่ายอักษะได้รับการขัดขวางขนาดใหญ่โดยความพยายามของหน่วย
ราชการข่าวกรองลับของอังกฤษ (เอ็มไอ-6) ซึ่งได้รวมถึงมีการติดสินบนแก่เจ้าหน้าที่สเปนด้วยจำนวน 200 ล้านดอลลาร์
[3] สเปนยังคงให้ความช่วยเหลือแก่เยอรมนีและอิตาลีในวิธีต่างๆ ภายหลังสงคราม ระบอบฟรังโกได้มีการวิวัฒนาการไปสู่ระบอบเผด็จการคลาสสิคมากขึ้น
แม่แบบ:Unreliable source[4]สงครามกลางเมืองสเปนได้เริ่มต้นขึ้นด้วยการก่อรัฐประหารโดยทหารสเปนบน peninsula (peninsulares) และในโมร็อกโกสเปน (africanistas) เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1936 การก่อรัฐประหารครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มที่เห็นชอบเป็นส่วนใหญ่ไปยังฝ่ายขวา ชนวนเหตุในสเปน รวมทั้งส่วนใหญ่ของเหล่าคณะนักบวชคาทอลิกของสเปน, กลุ่ม Falange และฝ่ายอัลฟอนซิสท์และฝ่ายคาลิสท์ที่นิยมกษัตริย์ การก่อรัฐประหารครั้งนี้ได้ขยายไปสู่สงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อเป็นเวลาสามปี เมื่อครั้งที่ฟาสซิสต์อิตาลีและ
นาซีเยอรมนีได้ตกลงกันที่จะให้การสนับสนุนฟรังโก ได้เริ่มต้นด้วยการขนส่งทางอากาศของ africanistas เข้าสู่แผ่นดินแม่
[5] ฝ่ายสนับสนุนอื่นรวมทั้งระบอบ
เอสตาโด โนโวของ
โปรตุเกสภายใต้การนำโดย António de Oliveira Salazar ในขณะที่มีการเสนอตั้งชื่อของสงครามกลางเมืองครั้งนี้ว่าเป็น"สงครามครูเสด"
[6]หรือ
เรกองกิสตาใหม่
[7][8][9] เพื่อดึงดูดความเห็นชอบของชาวคาทอลิกระดับสากลและการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครชาวไอริชคาทอลิก แม้ว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักรมีความเห็นใจอย่างมาก
[10][11][12]ต่อฝ่ายฟรังโก ในขณะที่แนวร่วมประชาชนของรัฐบาลฝรั่งเศสเกิดความร้อนใจที่จะให้การสนับสนุนสาธารณรัฐ ทั้งสองฝ่ายต่างเฝ้าสังเกตการณ์กับ
ข้อตกลงที่จะไม่เข้าแทรกแซงของเดือนตุลาคม ค.ศ. 1936 ตั้งแต่เดือนธันวาคม ค.ศ. 1936
สาธารณรัฐสเปนที่ 2 ได้รับการหนุนหลังโดย
สหภาพโซเวียต (ในเวลาเดียวกันก็มีพันธมิตรร่วมอุดมการณ์เดียวกันของ
สาธารณรัฐประชาชนตูวาและ
สาธารณรัฐประชาชนมองโกเลีย) และ
เม็กซิโก แต่ให้ความช่วยเหลือที่น้อยกว่าที่ให้กับฝ่ายชาตินิยมสเปน
[13]