ประวัติ ของ หลวงสิริราชไมตรี_(จรูญ_สิงหเสนี)

หลวงสิริราชไมตรี มีนามเดิมว่า จรูญ สิงหเสนี เกิดที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2441 เป็นบุตรคนที่ 3 ของพระยาประเสริฐสุนทราศรัย (กระจ่าง สิงหเสนี) กับคุณหญิงตุ่ม (บุตรสาวของนายเดช-นางใย สิงหเสนี)

เมื่อายุได้ 7 ปี ได้ย้ายมาอยู่กรุงเทพมหานคร และเข้าศึกษาที่โรงเรียนบพิตรพิมุข โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนราชวิทยาลัย โรงเรียนอัสสัมชัญ (อสช 2654) และโรงเรียนกฎหมาย ตามลำดับ ได้เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (พ.ศ. 2457-2461) เมื่อสงครามสิ้นสุดจึงได้ยศสิบตรี (ส.ต.) เคยเป็นนักเรียนวิชากฎหมายในประเทศฝรั่งเศส ด้วยทุนกระทรวงยุติธรรม ต่อมาได้เป็นผู้ช่วยราชการสถานทูตสยามประจำกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในตำแหน่งเลขานุการเอกอัครราชทูต

นายจรูญได้เข้าร่วมกับคณะราษฎร เพื่อร่วมในการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากการชักชวนของนายปรีดี พนมยงค์ นักเรียนวิชากฎหมาย ทุนกระทรวงยุติธรรมเช่นเดียวกัน จัดเป็นคณะราษฎรชุดแรกที่มีการก่อตัวขึ้น 7 คน และถือเป็นเพียงคนเดียวที่มิได้มีสถานภาพเป็นนักเรียนหรือนักศึกษา อีกทั้งเมื่อสมาชิกคนอื่น ๆ ได้ศึกษาจบแล้ว ก็ได้เดินทางกลับสู่ประเทศสยาม แต่นายจรูญไม่ได้กลับมาด้วย[1] [2]

เมื่อเดินทางกลับมายังประเทศสยาม ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้มีบรรดาศักดิ์และราชทินนามเป็น หลวงสิริราชไมตรี ถือศักดินา ๖๐๐ เมื่อวันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2468[3]

ต่อมาหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองสำเร็จแล้ว หลวงสิริราชไมตรีได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีแทนที่ไม่ได้สังกัดกระทรวง (รัฐมนตรีลอย) และต่อมาได้เป็นราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

ปี พ.ศ. 2481 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอัครราชทูตประจำกรุงโรม ประเทศอิตาลี จนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ครอบครัวได้อพยพไปอยู่ ณ เมืองเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จนสงครามสงบในปี พ.ศ. 2488 จึงได้เดินทางกลับประเทศไทย ดำรงตำแหน่งอัครราชทูตประจำกระทรวง และในปี พ.ศ.2490 ได้โอนไปรับราชการที่กระทรวงการคลังและออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญเมื่อต้นปี พ.ศ. 2492

เมื่อออกจากราชการได้เป็นกรรมการในสมาคมสหายสงครามในพระบรมราชูปถัมภ์และได้ร่วมบุกเบิกการทำป่าไม้ และเหมืองแร่ ซึ่งเป็นสัมปทาน ที่รัฐบาลให้แก่ทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 1

ใกล้เคียง