การทำงาน ของ อนันต์_ภักดิ์ประไพ

นายอนันต์ เป็นผู้ก่อตั้งกิจการรถเมล์บ้านเรา ที่เปิดบริการรถเมล์รอบเมืองพิษณุโลก ต่อมาได้เข้าสู่งานการเมืองโดยการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก ได้รับเลือกตั้งสมัยแรก จากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2512 โดยไม่สังกัดพรรคการเมืองใด และได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2518 ในสังกัดพรรคไท

นายอนันต์ ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ในปี พ.ศ. 2518[3] และลาออกในเวลาต่อมา เมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2519

หลังจากการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2514 ไม่นาน นายอนันต์ ร่วมกับนายอุทัย พิมพ์ใจชน ส.ส.จังหวัดชลบุรี ของพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ส.ส.จังหวัดชัยภูมิ คือ นายบุญเกิด หิรัญคำ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาให้ดำเนินคดีต่อคณะปฏิวัติในข้อหากบฏต่อแผ่นดิน ถือเป็นท้าทายอำนาจของผู้มีอำนาจอย่างตรงไปตรงมา แต่แล้วศาลได้ตีความ และทำให้ทั้งสามคนตกเป็นจำเลย และสั่งให้จำคุกนายอุทัย เป็นเวลา 10 ปี และนายบุญเกิด กับนายอนันต์ คนละ 7 ปี ซึ่งทั้งหมดได้ถูกปล่อยตัวหลังเหตุการณ์ 14 ตุลา ในสมัยรัฐบาลที่มีนายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี[4] [5][1] เขาจำคุกระหว่างวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2515 ตามคำสั่งหัวหน้าคณะปฏิวัติ ที่ 36/2515 และออกจากคุกวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2517 ตามพระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะปฏิวัติที่ 36/2515 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2515 พ.ศ. 2517[6]

หลังจากวางมือทางการเมือง นายอนันต์ ได้ประกอบธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กในจังหวัดพิษณุโลก