มะฮาตีฮะตูระ (แปลงเป็นไทย
มหาสีหสุระ,
พม่า: မဟာသီဟသူရ,
อักษรโรมัน: Maha Thiha Thura; ราวพุทธศักราช 2263-2325) เอกสารไทยเรียก
อะแซหวุ่นกี้ (အသည်ဝန်ကြီး) เป็นแม่ทัพแห่งกองทัพพม่าช่วง พ.ศ. 2311–2319 กล่าวได้ว่า เขาคือนักยุทธศาสตร์ทางทหารที่ปราดเปรื่องที่สุดคนหนึ่ง มีชื่อในประวัติศาสตร์พม่าว่า เป็นผู้พิชิต
สงครามจีน–พม่าช่วง พ.ศ. 2308–2312 เขาก้าวขึ้นเป็นขุนศึกชั้นนำในรัชกาลของพระเจ้า
อาลองบูรา (อลองพญา) คราวที่พระองค์ทำ
สงครามผนวกดินแดนพม่าช่วง พ.ศ. 2295–2300 ภายหลัง เขาได้บัญชากองทัพพม่าใน
กรุงศรีอยุธยา ล้านนา หลวงพระบาง และ
มณีปุระภายหลังการสิ้นพระชนของพระเจ้ามังระ กษัตริย์หลายพระองค์ต่างแสวงหาความสนับสนุนจากผู้กว้างขวางและมากบารมีผู้นี้ เขามีส่วนสำคัญในการช่วยให้ราชสมบัติตกเป็นของ
พระเจ้าจิงกูจา หลานของเขาเองตามเจตนาของพระเจ้ามังระ แทนที่จะตกแก่โอรสคนอื่นๆ ของพระเจ้าอลองพญาตามพินัยกรรมแรก ต่อมาเขาได้ถูกหลานที่ตัวเองปกป้องระแวงสังสัย จนถูกปลดและเนรเทศไปอยู่ที่เมืองสะกาย กระทั่ง
พระเจ้าหม่องหม่อง ฉวยโอกาสยึดราชสมบัติและขึ้นครองราชย์แทน พระเจ้ามองมองได้ตั้งเขากลับมาเป็นอัครมหาเสนาบดี ทว่า หกวันให้หลัง พระเจ้า
พระเจ้าปดุง ก็ได้โค่นล้มหม่องหม่องและขึ้นครองราชย์แทน พระเจ้าปดุงได้เรียกเขาให้กลับมารับตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีอีกครั้ง แต่ภายหลังก็ตั้งข้อหาขุนพลเฒ่าเจนศึกผู้นี้ ฐานเป็นกบฏและถูกนำตัวไปประหารในเวลาต่อมา
[2]