ชาร์ลผู้เรียบง่าย ของ อาณาจักรแฟรงก์ตะวันตก

หลังการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์การอแล็งเฌียงคนสุดท้ายของอีสต์ฟรังเกีย พระเจ้าหลุยส์ผู้เป็นเด็กน้อย โลธาริงเกียเปลี่ยนมาเป็นพันธมิตรกับกษัตริย์แห่งเวสต์ฟรังเกีย ชาร์ลผู้เรียบง่าย หลัง ค.ศ.911 ดัชชีชวาเบียขยายอาณาเขตไปทางตะวันออกและได้ดินแดนอัลซาสมาเพิ่ม บาลด์วินที่ 2 แห่งฟลานเดอส์เริ่มมีอำนาจมากขึ้นหลังการสิ้นพระชนม์ของโอโดใน ค.ศ. 898 โดยได้โบโลญและแทร์นัวส์มาจากชาร์ล อาณาเขตที่อยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์อย่างแท้จริงลดลงอย่างมาก และถูกตัดทอนดินแดนที่อยู่ระหว่างนอร์ม็องดีกับแม่น้ำลัวร์ ราชสำนักมักอยู่ในไรม์หรือไม่ก็ล็อง[9]

ชาวนอร์สเริ่มตั้งถิ่นฐานในนอร์ม็องดี และตั้งแต่ ค.ศ.919 ชาวมักยาร์รุกรานครั้งแล้วครั้งเล่า ในการขาดหายไปของพระราชอำนาจที่แข็งแกร่ง ผู้รุกรานถูกสู้รบและปราบโดยเหล่าขุนนางท้องถิ่น อาทิเช่น ริชาร์ดแห่งเบอร์กันดีและโรแบต์แห่งนิวสเตีย ที่ปราบผู้นำไวกิ้ง รอลโล ใน ค.ศ.911 ที่ชาร์ตส์ ท้ายที่สุดการคุกคามของชาวนอร์มันก็สิ้นสุดลง พร้อมกับการจ่ายเดนเกลด์ก้อนสุดท้ายใน ค.ศ.924 และ ค.ศ.926 เหล่าขุนนางต่อต้านชาร์ลมากขึ้นและใน ค.ศ.922 ได้ปลดพระองค์ออกจากตำแหน่งและเลือก โรแบต์ที่ 1 เป็นกษัตริย์คนใหม่ หลังการสิ้นพระชนม์ของโรแบต์ใน ค.ศ.923 เหล่าขุนนางเลือกรูดอล์ฟเป็นกษัตริย์ และยังคงคุมขังชาร์ลจนกระทั่งสิ้นพระชนม์ใน ค.ศ.929 หลังการปกครองของพระเจ้าชาร์ลผู้เรียบง่าย ดยุคท้องถิ่นเริ่มออกเงินตราของตนเอง

ใกล้เคียง

อาณาจักรอยุธยา อาณาจักรรัตนโกสินทร์ (สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์) อาณาจักรล้านนา อาณาจักรสุโขทัย อาณาจักรล้านช้าง อาณาจักรธนบุรี อาณาจักรพระนคร อาณาจักรปตานี อาณาจักรโคตรบูร อาณาจักรฟูนาน