ลักษณะ ของ อาร์คีออปเทอริกซ์

ชิ้นตัวอย่าง 8 ชิ้นในมาตราส่วนเปรียบเทียบกับเท้าของมนุษย์

อาร์คีออปเทอริกซ์เป็นนกโบราณชนิดหนึ่งที่มีชีวิตอาศัยอยู่ระหว่างช่วงสมัยไทโธเนียนของยุคจูแรสซิก ประมาณ 150-145 ล้านปีมาแล้ว[7] ชิ้นตัวอย่างฟอสซิลของอาร์คีออปเทอริกซ์ที่ถูกค้นพบจากหินปูนโซล์นฮอเฟน (Solnhofen limestone) เท่านั้นในรัฐบาเยิร์นทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนีซึ่งเป็นแหล่งฟอสซิลที่สมบูรณ์ของหมวดหินที่โดดเด่นและหายากที่เป็นที่รู้กันว่าให้ฟอสซิลที่มีรายละเอียดสูงเป็นพิเศษ [7]

โดยการประมาณการแล้ว อาร์คีออปเทอริกซ์มีขนาดเทียบเท่ากับนกขนาดกลางในปัจจุบัน มีปีกกว้าง โค้งมนตรงส่วนปลายปีก และมีหางยาวเมื่อเปรียบเทียบกับความยาวของลำตัว อาร์คีออปเทอริกซ์อาจมีลำตัวยาวได้ถึง 50 เซนติเมตร แม้ว่าขนของมันจะมีรายละเอียดในฟอสซิลน้อยกว่าลักษณะอื่นๆ แต่ก็มีลักษณะในรูปแบบและโครงสร้างทั่วไปคล้ายกับของขนนกในปัจจุบัน[7] อย่างไรก็ตามแม้จะพบมีขนแบบนกจำนวนมาก[8] แต่อาร์คีออปเทอริกซ์ก็ยังมีลักษณะแบบไดโนเสาร์เทอโรพอดหลายประการ ลักษณะที่ไม่พบในนกปัจจุบันคืออาร์คีออปเทอริกซ์มีซี่ฟันขนาดเล็ก[7] รวมถึงมีกระดูกหางยาวซึ่งเป็นลักษณะที่อาร์คีออปเทอริกซ์มีร่วมกับไดโนเสาร์อื่นๆในช่วงเวลานั้น[9]

การเปรียบเทียบขาหน้าของไดโนนีคัส (ซ้าย) และ อาร์คีออปเทอริกซ์ (ขวา) หนึ่งในชิ้นส่วนกระดูกที่คล้ายกันของนกและโดรมีโอซอริดี

เนื่องด้วยมันมีลักษณะหลายประการของนกและไดโนเสาร์ อาร์คีออปเทอริกซ์จึงได้รับการพิจารณาให้เป็นสิ่งที่เชื่อมต่อระหว่างนกกับไดโนเสาร์ คืออาจเป็นนกชนิดแรกที่เปลี่ยนแปลงลักษณะจากสัตว์บกไปเป็นนก[7] ในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1970 จอห์น โอสโตรม (John Ostrom) ได้สนับสนุนตามความคิดนำของโธมัส เฮนรี ฮักซ์เลย์ (T. H. Huxley) ที่คิดไว้ในในปี ค.ศ. 1868 โดยให้เหตุผลว่านกวิวัฒนาการมาจากไดโนเสาร์เทอโรพอด และอาร์คีออปเทอริกซ์เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญยิ่งในเหตุผลข้อนี้นี้ มันมีลักษณะของนกหลายประการ เช่น มีกระดูกสองง่ามที่เป็นกระดูกหน้าอกของนก ขนสำหรับใช้บิน ปีก และบางส่วนของนิ้วแรกที่พลิกตรงข้ามกับที่นิ้วเหลือ และยังมีอีกหลายลักษณะของไดโนเสาร์และเทอโรพอด เช่น มีกระดูกข้อเท้ายาวยกขึ้น มีแผ่นกระดูกระหว่างรากฟัน มีช่องรูเปิด (obturator foramen) ของกระดูกก้น และมีกระดูกเชฟรอนทางส่วนหางที่ยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอสโตรมพบว่าอาร์คีออปเทอริกซ์มีลักษณะเหมือนกับไดโนเสาร์เทอโรพอดในวงศ์โดรมีโอซอริดีเป็นพิเศษ[10][11][12][13][14][15][16][17][18][19][20][21]

ซากเหลือชิ้นแรกของ “อาร์คีออปเทอริกซ์” ถูกค้นพบในปี 1861 เพียง 2 ปีหลังจากที่ชาร์ล ดาร์วินตีพิมพ์ผลงานเรื่อง “On the Origin of Species” ”อาร์คีออปเทอริกซ์” ดูเหมือนจะยืนยันทฤษฎีของดาร์วินและหลังจากนั้นก็กลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในเรื่องของการกำเนิดนก ฟอสซิลช่วงคาบเกี่ยว และช่วยยืนยันในเรื่องของวิวัฒนาการ จริงๆแล้วการวิจัยเกี่ยวกับไดโนเสาร์ในภายหลังจากทะเลทรายโกบีและในประเทศจีนได้พบหลักฐานเพิ่มเติมของการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่าง “อาร์คีออปเทอริกซ์” และไดโนเสาร์อย่างเช่นไดโนเสาร์มีขนจากประเทศจีน “อาร์คีออปเทอริกซ์” มีลักษณะใกล้เคียงกับนกปัจจุบันและมันได้แสดงลักษณะทั้งหลายว่าเป็นลักษณะของนกโบราณ อย่างไรก็ตามมันอาจไม่ได้เป็นบรรพบุรุษของนกในปัจจุบันโดยตรงก็ได้ และก็ยังไม่แน่ชัดว่าได้มีการแตกแขนงวิวัฒนาการของนกอื่นๆเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใดในช่วงเวลานั้น

ใกล้เคียง

อาร์ค อาร์คิมิดีส อาร์คีออปเทอริกซ์ อาร์ชดยุกรูดอล์ฟ มกุฎราชกุมารแห่งออสเตรีย-ฮังการี อาร์คา (นักดนตรี) อาร์คัมฮอเรอร์ อาร์ชดัชเชสเอลิซาเบธ มารีแห่งออสเตรีย อาร์กเดอะแลด: ทไวไลท์ออฟเดอะสปีริท อาร์ชดัชเชสจิเซลาแห่งออสเตรีย อาร์คิแคด

แหล่งที่มา

WikiPedia: อาร์คีออปเทอริกซ์ http://www.ucalgary.ca/~longrich/archaeopteryx.htm... http://www.dinosauria.com/jdp/archie/archie.htm http://www.dinosauria.com/jdp/jdp.htm http://books.google.com/books?id=6RAFAAAAQAAJ&pg=P... http://encarta.msn.com/encyclopedia_761565838/lime... http://news.nationalgeographic.com/news/2005/12/12... http://news.nationalgeographic.com/news/2005/12/12... http://www.nature.com/nature/journal/v430/n7000/su... http://www.newscientist.com/article/mg18224432.300... http://www.readprint.com/chapter-2217/Charles-Darw...