เมนูนำทาง
อาสนวิหาร ประวัติอาสนวิหารในประเทศอังกฤษประวัติของอาสนวิหารในประเทศอังกฤษแตกต่างกันเป็นบางอย่างจากประวัติของอาสนวิหารในประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรป อังกฤษมีอาสนวิหารน้อยกว่าประเทศอื่น ๆ ในยุโรปเช่นฝรั่งเศสหรืออิตาลี แต่ตัววิหารจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น เมื่อสมัยการปฏิวัติฝรั่งเศส ฝรั่งเศสมีอาสนวิหาร 136 อาสนวิหารในขณะที่อังกฤษมีเพียง 27
ประเทศอังกฤษตามกฎแล้วจะห้ามสร้างอาสนวิหารในหมู่บ้าน ฉะนั้นสถานที่มีอาสนวิหารจึงได้รับแต่งตั้งขึ้นเป็นเมืองไม่ว่าจะเป็นสถานที่ขนาดไหน บางครั้งเราจึงพบว่าอาสนวิหารบางอาสนวิหารจะตั้งอยู่ในเมืองที่ค่อนข้างเล็กแต่จะเรียกตัวเองว่า "นครอาสนวิหาร" ("cathedral city") เช่น "เมืองอาสนวิหารเว็ลส์" ที่เป็นที่ตั้งของอาสนวิหารเว็ลส์ ตัวเมืองเวลส์จะไม่ใหญ่ไปกว่าเมืองเล็ก ๆ หรือเมืองอีลี ที่ตั้งอาสนวิหารอีลีซึ่งเป็นอาสนวิหารขนาดใหญ่ที่สร้างแบบศิลปะยุคกลาง
การที่เกาะอังกฤษ (British Isles) เป็นเกาะที่มีเนื้อที่น้อย แทนที่จะแบ่งมุขมณฑลอย่างชัดเจนเช่นประเทศอื่นในทวีปยุโรป อังกฤษใช้ระบบ "มุขมณฑลเคลื่อนที่" โดยจะแบ่งมุขมณฑลตามที่ตั้งของกลุ่มชน เช่น บิชอปของชาวแซกซันใต้ หรือชาวแซกซันตะวันตก "คาเทดรา" จะเป็นแบบที่ย้ายไปไหนมาไหนได้ตามการเคลื่อนย้ายของชุมชน
ตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงมุขมณฑลจะเห็นได้จากการการประชุมบิชอปที่ลอนดอน เมื่อปี ค.ศ. 1075 ที่อาร์ชบิชอปลองฟรอง (Lanfranc) เป็นประธาน ผลจากการประชุมทำให้มีการย้ายหรือเปลี่ยนแปลงมุขมณฑลในบางเขต เช่น มีคำสั่งให้บิชอปของกลุ่มชนแซ็กซอนใต้ย้ายจากมุขมณฑลเซลซี (Selsey) ไปอยู่ที่ชิคเชสเตอร์ ให้บิชอปแห่งวิลท์เชอร์และดอร์เซ็ทย้ายคาเทดรา" จากแชร์บอร์น (Sherborne) ไปโอลด์เซรัม (Old Sarum) (ใกล้เมืองซอลส์บรี (Salisbury)) และให้บิชอปแห่งเมอร์เซีย (Mercia) ย้ายอาสนวิหารจากลิคฟิลด์ (Lichfield) ไปเชสเตอร์ (Chester) การย้ายบิชอปเหล่านี้ทำให้เราเห็นร่องรอยการย้ายถิ่นฐานของชนกลุ่มต่าง ๆ เช่น การแบ่งมุขมณฑลที่ไอร์แลนด์ของมีธ (Meath) ซึ่งมีผลทำให้เขตมีธไม่มีอาสนวิหาร และออสซอรี (Ossory) ที่อาสนวิหารอยู่ที่คิลเค็นนี (Kilkenny) มุขมณฑลสกอตแลนด์ก็เช่นเดียวกันเป็นมุขมรฑลแบบเคลื่อนที่
ระหว่างปลาย คริสต์ศตวรรษที่ 11 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 อังกฤษมีอาสนวิหารแบบอารามปกครองโดยนักพรตพอ ๆ กับอาสนวิหารแบบเซคิวลาร์ที่ปกครองโดยสภาเคลอจีที่ประกอบด้วย แคนัน นำโดยดีน อาสนวิหารบาธ (Bath) มีมุขมณฑลร่วมกับเวลส์ และอาสนวิหารโคเว็นทรี (Coventry) มีมุขมณฑลร่วมกับ ลิคฟิลด์เป็นต้น
ระบบการปกครองอาสนวิหารมีผลกระทบกระเทือนมากที่สุดเมื่อมีการปฏิรูปศาสนาในอังกฤษ (English Reformation) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ประเทศอังกฤษแยกตัวมาจากการปกครองของนิกายโรมันคาทอลิก โบสถ์ที่เคยขึ้นตรงต่อคริสตจักรคาทอลิกก็ย้ายมาขึ้นกับคริสตจักรแห่งอังกฤษ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ ที่มีผลกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงต่อสถานภาพของอาสนวิหารทั่วทั้งเกาะอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นด้านวัตถุหรือรูปการปกครองของอาสนวิหาร
หลังจากอังกฤษแยกตัวออกมาเป็นนิกายอิสระจากคาทอลิก พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ ก็มีพระราชโองการสั่งให้ยุบอารามและยึดทรัพย์อารามทั้งหมดในประเทศอังกฤษตามการยุบอาราม ยกเว้นอาสนวิหารบาธและอาสนวิหารโคเว็นทรีซึ่งได้รับการสถาปนาใหม่ให้เป็นอาสนวิหารแบบเซคิวลาร์ โดยมี Dean เป็นผู้ปกครองและมีแคนันระหว่าง 12 คน อย่างเช่นที่ อาสนวิหารแคนเทอร์เบอรี และอาสนวิหารเดอร์แรม จนลงไปถึง 4 คนที่ อาสนวิหารคาร์ไลส์ (Carlisle Cathedral) ตำแหน่ง “Precentor” ที่เคยเป็นตำแหน่งสำคัญของ “ระบบเก่า” (Old Foundation) ก็ถูกลดความสำคัญลงมา
นอกจากยุบอาสนวิหารเดิมแล้วพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงสร้างอาสนวิหารขึ้นใหม่ 6 แห่งจากอารามเดิม แต่ละแห่งปกครองโดยแคนันประจำมุขมณฑล (secular canon) ทั้ง 6 แห่งมี เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ เท่านั้นที่มิได้รักษาฐานะอาสนวิหารเอาไว้
โบสถ์ใหญ่ ๆ ที่ต่อมาได้รับเลื่อนฐานะเป็นอาสนวิหารหลังจากการปฏิรูปศาสนาก็มี อาสนวิหารเซาท์เวลล์ (Southwell cathedral) อาสนวิหารซัทเธิร์ค (Southwark cathedral) อาสนวิหารริพอน (Ripon cathedral) อาสนวิหารเซนต์อัลบัน
ตามปกติแล้วสภาเคลอจีของอาสนวิหารแบบเซคิวลาร์ จะมีตำแหน่งสำคัญสี่ตำแหน่งหรือมากกว่านอกเหนือไปจากแคนัน สี่ตำแหน่งดังกล่าวนี้คือ Dean, Precentor, Chancellor และ Treasurer ผู้ถือตำแหน่งทั้งสี่นี้เรียกรวมกันว่า quatuor majores personae จะมีที่นั่งประจำตำแหน่งเฉพาะในบริเวณที่พิธีภายในโบสถ์
นอกจากตำแหน่งดังกล่าวแล้วบางอาสนวิหารก็อาจจะมีตำแหน่งอื่นเช่น Praelector, รอง dean, รอง chancellor, Succentor-canonicorum และอื่นๆ นอกจากตำแหน่งต่างๆเหล่านี้ก็มีแคนันที่ไม่มีตำแหน่งอะไรแคนันส่วนใหญ่แล้วจะมีที่อยู่นอกโบสถ์ฉะนั้นทำให้มีความแตกต่างระหว่างแคนันในโบสถ์ และแคนันที่ไม่อยู่ในโบสถ์ แคนันที่อยู่นอกโบสถ์รู้จักกันว่า prebendaries ถึงแม้จะไม่อยู่ในโบสถ์แต่ แคนันก็ยังมีตำแหน่งเป็นแคนันและยังสามารถออกเสียงในการประชุมได้
ระบบการอยู่นอกโบสถ์เช่นนี้ทำให้เกิดระบบที่เรียกว่า Vicars choral แคนันแต่ละคนจะมี Vicar ที่ทำหน้าแทน จะนั่งประจำที่ของแคนนอนในที่ทำพิธีในกรณีที่แคนันไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และจะนั่งที่นั่งต่ำกว่าถ้าแคนนอนปฏิบัติหน้าที่ได้ Vicar ไม่มีสิทธิออกเสียงในที่ประชุมและเป็นตำแหน่งที่ปลดไม่ได้ ความสำคัญของ Vicar คือเป็นผู้ทำหน้าที่แทนแคนันเมื่อแคนนอนไม่อยู่ Vicar บางที่ก็จะจัดเป็น สภาเคลอจีของตนเอง ภายใต้การปกครองของ Dean และ สภาเคลอจีของอาสนวิหาร
ความสัมพันธ์ระหว่างมุขนายกและสภาเคลอจีของอาสนวิหารแบบ“เซ็คคิวลาร์” ก็ไม่ต่างกับ ความสัมพันธ์ระหว่างมุขนายกและมุขมณฑลของอาสนวิหารแบบอาราม ทั้งสองกรณีเคลอจีจะทำหน้าที่เป็นปรึกษาของมุขนายกฉะนั้นโยบายทุกอย่างของมุขนายกก่อนที่จะนำมาปฏิบัติได้จะต้องได้รับการอนุมัติจากนักบวชก่อน
เมนูนำทาง
อาสนวิหาร ประวัติอาสนวิหารในประเทศอังกฤษใกล้เคียง
อาสนวิหาร อาสนวิหารกลอสเตอร์ อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส อาสนวิหารนักบุญเปาโล อาสนวิหารอัสสัมชัญ อาสนวิหารแร็งส์ อาสนวิหารลิงคอล์น อาสนวิหารโคโลญ อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล อาสนวิหารซอลส์บรีแหล่งที่มา
WikiPedia: อาสนวิหาร http://www.britainexpress.com/Where_to_go_in_Brita... http://www.gcatholic.com/churches/cath.htm http://www.sacred-destinations.com/sacred-sites/ca... http://www.ofchoristers.net http://www.newadvent.org/cathen/03437a.htm http://www.newadvent.org/cathen/03438a.htm http://commons.wikimedia.org/wiki/Church_architect... http://www.bbc.co.uk/history/british/architecture_...