ฮอตดอก (
อังกฤษ: hot dog, hotdog) เป็น
ไส้กรอกนึ่งหรือย่างซึ่งวางใน
ขนมปังที่ผ่ากลางแนวยาว โดยรับประทานในรูปแบบคล้าย
แซนด์วิช[2][3][4][5] ชื่อของฮอตดอกอาจทำให้บางบุคคลคิดว่ามี
เนื้อสุนัขเป็นส่วนประกอบหลัก แต่เนื้อสัตว์ที่นิยมใช้ทำฮอตดอกคือ
เนื้อวัว,
หมู หรือ
ไก่ หรืออาจเป็นเนื้อสัตว์สามหรือสองชนิดนี้ผสมรวมกันก็ได้ เครื่องปรุงที่นิยมรับประทานข้างเคียงได้แก่
มัสตาร์ด,
ซอสมะเขือเทศ,
หอมใหญ่,
มายองเนส,
แตงกวาดอง,
เนยแข็ง,
ชีลีกอนการ์เน และ
เซาเออร์เคราท์โดยทั่วไปมักเชื่อว่าฮอตดอกมีแหล่งกำเนิดจาก
ชาวเยอรมันที่อพยพไปอาศัยอยู่ใน
สหรัฐอเมริกา จนทำให้เป็นอาหารข้างถนนที่มีความนิยมสูงในสหรัฐอเมริกา โดยถือว่าเป็นอาหารอเมริกันได้เลยทีเดียว ในสหรัฐอเมริกา ฮอตดอกส่วนใหญ่มักมีจำหน่ายตามรถขายอาหารเคลื่อนที่ซึ่งมักอยู่ใกล้บริเวณสนาม
เบสบอล จนทำให้เป็นอาหารที่ชาวอเมริกันทุกคนนึกถึงเมื่อไปชมเบสบอล แต่ความจริงแล้ว ฮอตดอกถือกำเนิดมานานกว่า 3,500 ปีแล้วในยุค
บาบิโลเนีย มีลักษณะเป็นเนื้อหมักเครื่องเทศ ยัดไว้ในไส้สัตว์ ชาวโรมันเรียกอาหารประเภทนี้ว่า "Salsus" และเป็นที่ของคำว่า "Sausage" หรือไส้กรอกในภาษาอังกฤษ ใน
ยุคกลาง เมืองต่าง ๆ ของทวีปยุโรปได้พัฒนาสูตร รสชาติ และรูปร่างของไส้กรอกของตนเอง และตั้งชื่อไส้กรอกตามชื่อเมืองที่เป็นถิ่นกำเนิด เช่น ไส้กรอกเวียนนา เป็นต้นที่มาของคำว่า "ฮอตดอก" ที่แปลว่า "หมาร้อน" มาจาก ในปี ค.ศ. 1906 นักวาดการ์ตูนชื่อ โทมัส ดอร์แกน ได้แรงบันดาลใจจากรูปร่างที่โค้งงอคล้ายสุนัข
ดัชชุนของไส้กรอก และจากเสียงพ่อค้า "เห่า" ตะโกนเรียกคนซื้อ กอร์ดอนจึงได้วาดรูปสุนัขดัชชุนราดด้วยมัสตาร์ดประกบด้วยขนมปัง และเขียนบรรยายใต้รูปว่า "ซื้อหมาร้อน ๆ" (Get your hot dogs!) เล่ากันว่าดอร์แกนไม่สามารถสะกดคำว่า ดัชชุนได้ถูกต้อง จึงใช้คำว่า "หมา" แทน ปรากฏว่าคำว่าฮอตดอกกลายเป็นคำที่ติดปากชาวอเมริกันทั่วไป จนเลิกเรียกไส้กรอกด้วยคำอื่น ๆ และยังทำให้ชาวโลกคิดว่าฮอตดอกเป็นอาหารที่ชาวอเมริกันคิดขึ้นมาอีกด้วย
[6]