ร้อยเอก
ฮันส์-โยอาคิม วัลเทอร์ รูด็อล์ฟ ซีคฟรีท มาร์เซย์ (
เยอรมัน: Hans-Joachim Walter Rudolf Siegfried Marseille) เป็นนักบินรบและ
เสืออากาศเยอรมันแห่ง
ลุฟท์วัฟเฟอในช่วง
สงครามโลกครั้งที่สอง มีชื่อเสียงจากการต่อสู้เวหาใน
การทัพแอฟริกาเหนือและรูปแบบการดำเนินชีวิตแบบโบฮีเมียน เขาเป็นหนึ่งในนักบินรบที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในช่วงสงครามและได้สมญา
ดาราแห่งแอฟริกา ([Stern von Afrika] Error: {{Lang}}: text has italic markup (
help)) เขาอ้างสถิติยิงเครื่องบินเครือจักรภพอังกฤษตกจำนวน 151 ลำใน
แอฟริกาเหนือ[2] โดยใช้เครื่องบิน
เม็สเซอร์ชมิท เบเอ็ฟ 109 ไม่เคยมีนักบินคนใดอ้างสถิติยิงเครื่องบินสัมพันธมิตรตกมากเท่าเขามาร์เซย์มีบิดาเป็นร้อยเอกใน
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ย่ามีเชื้อสาย
อูว์เกอโนของฝรั่งเศส มาร์เซย์เข้ากองทัพอากาศเยอรมันใน ค.ศ. 1938 และจบการศึกษาขณะมีอายุ 20 ปีจากโรงเรียนนักบินรบในเวลาเดียวกับที่เริ่ม
ยุทธการที่บริเตน ศึกครั้งแรกนี้เขายิงเครื่องข้าศึกตกได้เพียง 7 ลำ มาร์เซย์เป็นคนหน้าตาดีมีเสน่ห์และชอบสังคมกลางคืนมาก เป็นพวกชอบฟังดนตรีแจ๊สอเมริกันและเป็นเพลย์บอย จนบางครั้งเขาอ่อนเพลียเกินกว่าที่จะได้รับอนุญาตให้ขึ้นบินในตอนเช้า ในที่สุดเขาถูกลงโทษให้โอนย้ายไปสังกัด ฝูงบินไล่ล่า 27 ([Jagdgeschwader 27] Error: {{Lang}}: text has italic markup (
help)) ในแอฟริกาเหนือเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 1941ผู้บังคับบัญชาของเขาที่นี่อาจจะเห็นพรสวรรค์ที่ซ่อนเร้นในตัวหนุ่มรูปงาม จึงได้อบรมและชี้แนะมาร์เซย์อย่างใกล้ชิด ทักษะนักบินรบของมาร์เซย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1942 เพียงวันเดียวเขายิงเครื่องบินข้าศึกตกไป 17 ลำ มาร์เซย์ได้รับ
กางเขนอัศวินแห่งกางเขนเหล็กประดับใบโอ๊กและดาบประดับเพชร ถือเป็นทหารที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับบำเหน็จความชอบชั้นสูงสุดของประเทศ มาร์เซย์ได้เลื่อนยศเป็นร้อยเอกในวันที่ 16 กันยายน 1942 ถือเป็นร้อยเอกที่อายุน้อยที่สุดในสามเหล่าทัพเยอรมัน อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 30 กันยายนปีเดียวกัน มาร์เซย์เสียชีวิตในอุบัติเหตุเครื่องยนต์ขัดข้องทางการอากาศ เขาดีดตัวแต่สายรัดอกไปคล้องกับครีบหางเครื่องบิน เครื่องบินเขาตกและระเบิด มาร์เซย์เสียชีวิตในวัย 22 ปี รวมสถิติยิงเครื่องบินตกทั้งหมด 158 ลำตลอดวิชาชีพก่อนหน้าอุบัติเหตุเสียชีวิตเพียงสองวัน มาร์เซย์ได้รับโทรศัพท์จากจอมพล
แอร์วีน ร็อมเมิล ผู้บัญชาการกองทัพกลุ่มแอฟริกา ให้เดินทางไปกรุงเบอร์ลินด้วยกัน เนื่องจากฮิตเลอร์มีกำหนดการปราศรัยที่สนามกีฬาในวันที่ 30 กันยายน และต้องการให้ร็อมเมิลและมาร์เซย์เข้าร่วม แต่มาร์เซย์ปฏิเสธไป อ้างว่าที่แนวหน้าจำเป็นต้องมีเขาและได้ขอลาหยุดเป็นเวลาสามเดือนเริ่มตั้งแต่ตุลาคม เขาวางแผนจะลาออกจากกองทัพในวันคริสต์มาสและแต่งงานกับคู่หมั้น
[3]