งานดนตรี ของ เคที_เพร์รี

อิทธิพล

อลานิส มอริสเซตต์ (ซ้าย) และ เฟรดดี เมอร์คูรี (ขวา) ต่างก็มีอิทธิพลต่อเพร์รีและงานดนตรีของเธอ

ในช่วงแรกของงานดนตรี แนวเพลงที่เพร์รีร้องบ่อย ๆ คือกอสเปล และเธอใฝ่ฝันจะประสบความสำเร็จเหมือนเอมี แกรนต์[229] เมื่ออายุ 15 ปี เธอได้รู้จักเพลง "คิลเลอร์ควีน" ของวงควีน และนับว่าเป็นเพลงที่บันดาลใจเธอให้ทำอาชีพดนตรี[230] เธอกล่าวถึงนักร้องนำ เฟรดดี เมอร์คูรี ว่าเป็น "อิทธิพลใหญ่สุด" (biggest influence) ของเธอและอธิบายว่า "การผสมผสานของการแต่งเพลงแบบประชดประชันกับทัศนคติที่ว่า 'ฉันไม่ใส่ใจ' (I don't give a fuck) เป็นแรงบันดาลใจให้เธอได้อย่างไร"[231] เธอแสดงความนับถือวงดังกล่าวโดยตั้งชื่อน้ำหอมตัวที่สามของเธอว่า คิลเลอร์ควีน[180] เพร์รียังพูดถึงวงเดอะบีชบอยส์ และอัลบั้ม เพ็ตซาวส์ ในฐานะที่เป็นอัลบั้มที่มีอิทธิพลต่อเธออย่างมากว่า "เพ็ตซาวส์ เป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ฉันโปรดปรานที่มีผลต่อเพลงที่ฉันแต่ง ทุก ๆ เมโลดีที่ฉันแต่งขึ้นก็มีที่มาจากอัลบั้มเพ็ตซาวส์"[232] เพร์รีสรรเสริญอัลบั้มเดอะบีเทิลส์ ของวงเดอะบีเทิลส์ และอัลบั้ม เพ็ตซาวส์ อย่างมากและถือว่าเป็น "อัลบั้มที่ฉันฟังนานถึง 2 ปีติดต่อกัน"[233]

เพร์รีกล่าวถึงอลานิส มอริสเซตต์ และอัลบั้ม แจกกิดลิตเทิลพิลล์ (ค.ศ. 1995) ว่าเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่เป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญต่องานดนตรีของเธอ และมักจะได้ทำงานร่วมกับเกล็น แบลลาร์ด ซึ่งเคยทำงานกับมอริสเซตต์บ่อยครั้ง เพร์รีกล่าวว่า "อัลบั้มแจกกิดลิตเทิลพิลล์ เป็นอัลบั้มเพลงผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยทำมา มันมีเพลงที่แต่งไว้สำหรับทุกคน และเพลงทุกเพลงก็เกี่ยวกับฉันทั้งหมดด้วย เพลงเหล่านั้นยังคงอยู่เป็นนิรันดร์ตลอดมา" นอกจากนี้ เพร์รียังได้รับอิทธิพลจากอัลบั้ม เฟลมมิงเรด ของแพตตี กริฟฟิน และอัลบั้ม 10 เซนต์วิงส์ ของโจนาธา บรู๊ก[234] เพร์รีใฝ่ฝันอยากจะเป็นอย่างคาโรล คิง, บอนนีย์ เรตต์ และโจนี มิตเชลล์ และตั้งใจจะเป็น "มากกว่าโจนี มิตเชลล์" โดยจะออกเพลงแนวโฟล์กและอะคูสติก[235] ภาพยนตร์อัตชีวประวัติของเพร์รีเรื่อง เคที เพร์รี: พาร์ตออฟมี มีอิทธิพลมาจากภาพยนตร์เรื่อง มาดอนน่า: ทรูธออร์แดร์ เธอยกย่องความสามารถของมาดอนน่าในการนำเสนอตัวเองในรูปแบบใหม่ได้ และกล่าวว่า "ฉันอยากจะค่อย ๆ พัฒนาตนเองให้เหมือนกับมาดอนน่า"[236] และให้เครดิตว่ามาดอนน่าเป็นแรงบันดาลใจให้เธอทำอัลบั้ม ปริซึม "มืดมน"กว่าอัลบั้มก่อนหน้า

เพร์รีถือว่า ปีเยิร์ก เป็นอิทธิพลทางดนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขาเป็นแรงบันดาลใจให้เธอ "เต็มใจที่จะลองเสี่ยงอยู่เสมอ"[234] นักดนตรีคนอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลกับเพร์รี ได้แก่ แอ็บบ้า เดอะคาร์ดิแกนส์[237] เอซออฟเบส[238] ซินดี ลอเปอร์[239] ซีซี พีนิสตัน ซีแอนด์ซีมิวสิกแฟกทอรี แบล็กบ็อกซ์ คริสตัลวอเทอส์ มารายห์ แครี[235] พิงก์[240] และเกว็น สเตฟานี[234] เพลง "ไฟร์เวิร์ก" มีแรงบันดาลใจจากหนังสือชื่อ ออนเดอะโรด (On The Road) ของแจ็ก เครูแอ็ก ที่ผู้เขียนได้เปรียบเทียบคนที่มีชีวิตชีวาเป็นดั่งพลุที่พวยพุ่งไปบนท้องฟ้า และมองดูด้วยความเกรงขาม[241] คอนเสิร์ตครั้งที่สองของเธอ แคลิฟอร์เนียดรีมส์ทัวร์ ทำให้รำลึกถึงนวนิยายเรื่องอลิซท่องแดนมหัศจรรย์ (Alice's Adventures in Wonderland) และพ่อมดมหัศจรรย์แห่งเมืองออซ ( The Wonderful Wizard of Oz)[242] เธอยังให้เครดิตว่าภาพยนตร์ปี ค.ศ. 1996 เรื่องสี่แหววพลังแม่มด (The Craft) ทำให้เกิดเพลง "ดาร์กฮอร์ส"[243] และหนังสือเรื่องพลังแห่งจิตปัจจุบัน (The Power of Now) เขียนโดยเอคาร์ต ทอเลอ ที่ทำให้เกิดอัลบั้ม ปริซึม ขึ้นมา[137]

แนวดนตรีและรูปแบบเพลง

"ตอนที่ฉันกำลังบันทึกเสียงเพลงอยู่ บางครั้งฉันไม่แน่ใจตัวเอง ฉันจะรู้สึกว่า ฉันแค่โชคดี หรือฉันได้ทำให้คนทั้งโลกคิดว่าเพลงทั้งเจ็ดเพลงนั้นเหมาะกับอันดับหนึ่งแล้ว จากนั้นฉันก็กลับไปยังสตูดิโอและเริ่มเขียนเพลง และเชื้อน้ำมันที่แท้จริงในตัวฉันก็เดือดปุด ๆ ขึ้นมาและเตือนให้ฉันรู้ว่ามันอยู่ในตัวฉันมาตลอด ไม่มีใครจะเอามันไปจากฉันได้ไม่ว่าใครจะให้ความเห็นว่าอะไร มันก็จะอยู่ในนั้นเพราะฉันเกิดมาพร้อมกับมันและฉันต้องทำงานกับมันไปตลอดชีวิต"

— เพร์รีกล่าวถึงความมั่นใจในฐานะนักแต่งเพลง[244]

ขณะที่แนวเพลงเพร์รีจะเป็นแนวป็อป ร็อก และดิสโก้ แต่ "เคที ฮัดสัน" จะร้องแค่แนวกอสเปล อัลบั้มวันออฟเดอะบอยส์ และ ทีนเอจดรีม มีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศและความรัก อัลบั้ม วันออฟเดอะบอยส์ เป็นงานเพลงแนวป็อปร็อก ขณะที่อัลบั้ม ทีนเอจดรีม จะมีแนวดิสโก้เพิ่มเข้ามาด้วย[245][246] อัลบั้มที่สี่ ปริซึม เป็นดนตรีแนวแดนซ์และป็อปอย่างเห็นได้ชัด ในด้านเนื้อเพลง อัลบั้ม ปริซึม บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ การไตร่ตรองตนเอง และชีวิตประจำวัน[247] เพลงของเธอหลายเพลง โดยเฉพาะในอัลบั้ม ทีนเอจดรีม สะท้อนถึงความรักระหว่างวัยรุ่น นิตยสาร W บรรยายถึงการประชดประชันเรื่องเพศในอัลบั้มว่าเป็น "เมโลดีที่น่าจดจำอย่างไม่อาจต้านทานได้" (irresistible hook-laden melodies)[30] เนื้อหาเพลงแบบให้อำนาจตนเองเป็นเนื้อหาหลักในเพลงของเพร์รี[248]

เพร์รีระบุตนเองว่าเป็น "นักร้อง-นักแต่งเพลงสวมรอยเป็นดาราเพลงป็อป"[249] และยืนยันว่าการแต่งเพลงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเธอ เธอกล่าวกับนิตยสาร มารี แคลร์ ว่า "ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าลูกเล่นเวทมนตร์ลับของฉันที่ทำให้ฉันต้องแยกจากเพื่อนเป็นเรื่องที่กล้าหาญมากที่ต้องยอมอ่อนแอ จริงใจ และซื่อสัตย์" ฉันคิดว่าคุณจะผูกมิตรกับใครได้เมื่อจะต้องอ่อนแอ"[14] คริสเต็น วิก ให้ความเห็นว่า "เรียบง่าย เย็นสบาย และมีผลต่อผู้อื่นอย่างเพลงของเพร์รีสวมควรจะทำได้ ภายใต้พื้นผิวซ่อนทะเลอารมณ์ แรงจูงใจ และแรงกระตุ้นที่ขัดกันซับซ้อนมากพอที่จะเติมเต็มเพลงของคาโรล คิง"[233] เกร็ก ค็อต แห่งหนังสือพิมพ์ชิคาโกทริบูน กล่าวว่า "การเอาจริงเอาจังอาจเป็นความท้าทายที่ดีที่สุดของเพร์รีแล้ว"[250] หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทม์ส กล่าวว่า "เธอเป็นดาราป็อปที่มีศักยภาพที่สุดของวัน เพลงดังของเธอเป็นคำพูดเปรยจากการทดลองเท่านั้น"[251] แรนดอล โรเบิตส์ จากหนังสือพิมพ์ ลอสแอนเจลิสไทม์ส วิพากย์การใช้สำนวนและอุปมา และการใช้ "สำนวนจำเจ" (cliché) บ่อยเกินไป[252] ตลอดอาชีพของเธอ เพร์รีได้ร่วมเขียนเพลงให้กับศิลปินจำนวนมาก ได้แก่ เซลีนา โกเมซ แอนด์เดอะซีน[253][254] เจสซี เจมส์[255] เคลลี คลาร์กสัน[256] เลสลีย์ รอย[257] บริตนีย์ สเปียส์[258] อิกกี อะเซเลีย[259] และอะรีอานา กรานเด[260]

เสียงร้อง

เพร์รีมีช่วงเสียงร้องต่ำแบบคอนทราลโต (contralto)[261][262] การร้องเพลงของเธอได้รับทั้งคำชมและคำตำหนิ เบ็ตตี คลาร์ก แห่งหนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน ให้ความเห็นว่า "เสียงร้องของเธอทรงพลัง" (hard-edged)[263] ขณะที่ร็อบ เชฟฟิลด์ จากนิตยสาร โรลลิงสโตน ติว่าเสียงร้องของเพร์รี "มีปัญหาในเรื่องโน้ตสแตกคาโต" (staccato) จากในอัลบั้ม ทีนเอจดรีม[246] ดาร์เรน ฮาร์วีย์ จากเว็บไซต์มิวสิกโอเอ็มเอช เปรียบเทียบเสียงเพร์รีจากอัลบั้ม วันออฟเดอะบอยส์ กับเสียงของอลานิส มอริสเซตต์ ว่าทั้งคู่มี "เสียงมีชีวิตชีวา ที่เปลี่ยนระดับเสียงในกลางพยางค์ของคำเป็นอ็อกเทฟได้" (perky voice shifting octaves mid-syllable)[264] อเล็กซ์ มิลเลอร์ จากนิตยสาร เอ็นเอ็มอี รู้สึกว่าในอัลบั้ม วันออฟเดอะบอยส์ ปัญหาของเพร์รีคือเสียง... ในบางช่วงของท่อน มีคนทำให้เธอเชื่อว่าเธอเหมือนลูกไก่ร็อกใจกล้า (ballsy rock chick)[265] แม้ว่าเบอร์นาเด็ตต์ แม็กทัลตี จาก เดอะเดลีเทเลกราฟ ชื่นชม "เสียงลูกไก่ร็อก" ของเธอในบทวิจารณ์ของคอนเสิร์ตส่งเสริมอัลบั้มปริซึม[266]

แหล่งที่มา

WikiPedia: เคที_เพร์รี http://www.austriancharts.at/showitem.asp?interpre... http://www.mtv.com.au/kings-of-leon/news/katy-perr... http://smh.com.au/lifestyle/celebrity/documentary-... http://www.jcnet.com.br/noticias.php?codigo=221209 http://www.allaccess.com/top40-mainstream/future-r... http://www.allmusic.com/album/katy-hudson-mw000001... http://www.allmusic.com/album/one-of-the-boys-mw00... http://www.allmusic.com/artist/katy-perry-mn000085... http://www.azcentral.com/story/entertainment/music... http://www.billboard.com/amp/articles/columns/pop/...