สมัยเป็นผู้จัดการทีม ของ เคนนี_แดลกลีช

ลิเวอร์พูล (ผู้จัดการทีม)

ไฟล์:Kennydalglish.jpgแดลกลีชในปี ค.ศ. 2011

ในช่วงฤดูกาล 1984-85 โจ เฟแกน ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลในช่วงปี 1983-85 ได้ขอลาออกจากสโมสรเพราะเรื่องของการเมืองในประเทศของเขา ประธานสโมสรก็ไม่รู้ว่าจะเอาใครมาเป็นผู้จัดการทีมดี โดยเขาได้จัดตั้งกิจกรรมการเลือกโหวตผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลขึ้นให้แฟนเดอะค็อปได้คิดกัน แล้วมีเดอะค็อปกลุ่มหนึ่งได้เสนอ เคนนี แดลกลีช มาเป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล โดยประธานของสโมสรก็ได้เห็นด้วยจึงเลยเรียกตัว เคนนี แดลกลีช เข้ามาคุมทีม โดยการคุมครั้งแรกของแดลกลีชนั่นทำผลงานไปได้สวยเมื่อเข้ามาคุมทีมนัดแรกเก็บชัยชนะได้โดยบุกไปเยือน สโมสรฟุตบอลเชลซี โดยลิเวอร์พูลชนะไป 1-0 และคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกดิวิชัน 1 ของอังกฤษมาครองได้เป็นครั้งที่ 15 ในฤดูกาล 1987-88 แดลกลีชได้ซื้อนักฟุตบอลที่ชื่อ ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ มาเล่นในตำแหน่ง กองหน้าจากสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมของ สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด แล้วแดลกลีชก็หวังจะปั้นเขาให้เก่งเหมือนตน และในปีนี้แดลกลีชนำหงส์แดงคว้าแชมป์ ฟุตบอลลีกดิวิชัน 1 ของอังกฤษ และ เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ มาได้และในช่วงฤดูกาล 1988-89 แดลกลีชได้นำทีมลิเวอร์พูลไปคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ ได้สำเร็จโดยชนะสโมสรคู่เมือง คือ สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน ไป 3-2 และในช่วงฤดูกาล 1989-90 และ 1990-91 แดลกลีชได้นำทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ ฟุตบอลลีกดิวชั่น 1 ของอังกฤษ และ เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ มาได้ก่อนที่เขาจะลาออกจากผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล โดยในนัดสุดท้ายที่เขานำทีมลิเวอร์พูลไปเยือน สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในรอบชิงคอมมิวนิตีชิลด์ โดยเสมอไป 1-1 แต่คว้าแชมป์ได้ด้วยการยิงจุดโทษชนะไป 6-5

แดลกลีชกลับมาคุมลิเวอร์พูลอีกครั้ง ในฤดูกาล 2011-2012 ท่ามกลางความคาดหวังของผู้บริหารทีมและแฟนบอล เนื่องจากรอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการคนก่อนหน้านั้นมีผลงานที่ไม่ดี แต่ว่าผลงานของทีมในฤดูกาลนี้ กลับทำได้เพียงแค่แชมป์ลีกคัพเท่านั้น แม้จะเป็นแชมป์แรกของทีมในรอบ 6 ปี และได้เข้าชิงเอฟเอคัพกับเชลซี แต่อันดับในตารางเมื่อจบฤดูกาล ลิเวอร์พูลทำได้เพียงแค่ที่ 8 เท่านั้น ซึ่งอันดับต่ำกว่าเอฟเวอร์ตัน ทีมคู่ปรับร่วมเมืองเสียอีกที่ได้ที่ 7 ทำให้เมื่อจบฤดูกาลทางผู้บริหารตัดสินใจปลดแดลกลีชออกจากตำแหน่ง[2]

แบล็กเบิร์นโรเวอส์

ในช่วงเปิดฤดูกาลใหม่ในฟุตบอลดิวิชัน 2 ประธานสโมสรแบล็กเบิร์นโรเวอส์ได้จ้างเคนนี แดลกลีช เข้ามาคุมทีม โดยแดลกลีชได้ตอบตกลง ในช่วง 1991-92 แดลกลีชนำทีมแบล็กเบิร์นโรเวอส์เก็บชัยชนะได้มาเกือบหมด โดยแดลกลีชได้วางแผนให้กับแบล็กเบิร์นโรเวอส์ไว้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเสริมแนวรุกหรือการป้องกันลูกยิงของทีมอื่น ๆ ซึ่งแดลกลีชได้นำทีมแบล็กเบิร์นโรเวอส์เก็บชัยชนะมาได้ 78 แต้ม เป็นอันดับ 1 ของฟุตบอลลีกดิวิชัน 2 ในอังกฤษ โดยได้ลงแข่งทั้งหมด 36 นัด คว้าชัยชนะมาได้ 31 นัด เสมอ 3 นัด แพ้แค่ 2 นัด จึงให้แบล็กเบิร์นโรเวอส์คว้าแชมป์ฟุตบอลลีกดิวิชัน 2 ของอังกฤษได้สำเร็จและได้เลื่อนชั้นขึ้นไปในเล่นพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 1993-94 แดลกลีชนำทีมแบล็กเบิร์นโรเวอส์จบอันดับ 2 ในพรีเมียร์ลีกได้โดยมีแต้ม 84 แต้ม ตามหลังสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดซึ่งเป็นที่ 1 อยู่ 8 แต้ม โดยได้ลงแข่งไป 42 นัด ชนะ 25 นัด เสมอ 9 นัด แพ้ 8 นัด แล้วในฤดูกาล 1994-95 นัดแรกที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก คือนัดที่เจอกับสโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์โดยเสมอไป 2-2 และในนัดสุดท้ายเจอกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดภายใต้การคุมทีมของอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โดยแดลกลีชนำทีมแบล็กเบิร์นคว้าชัยชนะไปได้ 3-2 จึงทำให้แบล็กเบิร์นโรเวอส์มีแต้มทั้งหมด 89 แต้ม แล้วคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาได้สำเร็จและเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของแบล็กเบิร์นโรเวอส์ โดยในขณะที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, นอตทิงแฮมฟอเรสต์ และลิเวอร์พูล มี 88, 77 และ 74 แต้มตามลำดับ โดยเคนนี แดลกลีช ได้ถูกจารึกในประวัติของสโมสรแบล็กเบิร์นโรเวอส์ในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาให้กับสโมสรได้เป็นครั้งแรกแล้วได้นำทีมไปเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกของสโมสรอีกด้วย

แต่เคนนี แดลกลีช ก็ได้ขอลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีมแบล็กเบิร์นโรเวอส์ เนื่องจากมีเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของเขา ซึ่งปัจจุบันทางแบล็กเบิร์นโรเวอส์ก็ยังยกย่องแดลกลีชว่าเป็นผู้จัดการทีมที่ดีอันดับต้นของสโมสรมาตลอด