Rzeczpospolita Obojga Narodów (
pl)
Abiejų tautų respublika (
lt)
Serenissima Res Publica Coronae Polonicae Magni Ducatusque Lithuaniae (
ละติน)
Річ Посполита Обох Народів (
uk)
Polish-Lithuanian Commonwealth (
en.)
เครือจักรภพโปแลนด์-ลิทัวเนีย (
โปแลนด์: Rzeczpospolita Obojga Narodów;
อังกฤษ: Polish-Lithuanian Commonwealth) มีชื่อเป็นทางการว่า “Rzeczpospolita Korony Polskiej i Wielkiego Księstwa Litewskiego”
[1] หรือที่รู้จักกันในนาม “
สาธารณรัฐโปแลนด์ที่หนึ่ง” (First Polish Republic) หรือ “สาธารณรัฐแห่งสองชาติ” (Republic of the Two Nations) (
โปแลนด์: Pierwsza Rzeczpospolita หรือ Rzeczpospolita Obojga Narodów;
ลิทัวเนีย: Abiejų tautų respublika) เป็นเครือจักรภพที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุด
[2]แห่งหนี่งในยุโรปใน
คริสต์ศตวรรษที่ 17 โครงสร้างทางการเมืองเป็นกึ่งสหพันธรัฐ กึ่งราชาธิปไตย เครือจักรภพก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1569 โดย
สหภาพลูบลิน (Union of Lublin) ซึ่งรวม
ราชอาณาจักรโปแลนด์เข้ากับ
แกรนด์ดัชชีลิทัวเนียมาจนถึงวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 1791 เครือจักรภพมีได้ครอบคลุมเพียงดินแดนโปแลนด์และลิทัวเนียเท่านั้น แต่ยังรวมดินแดนทั้งหมดของ
เบลารุสและ
ลัตเวีย ดินแดนส่วนใหญ่ของ
ยูเครนและ
เอสโตเนีย รวมถึงบางส่วนของประเทศรัสเซียปัจจุบัน (แคว้นสโมเลนสค์และคาลินินกราด) ภาษาราชการแต่เดิมได้แก่
ภาษาโปแลนด์กับ
ภาษาละตินในราชอาณาจักรโปแลนด์ และ
ภาษาลิทัวเนียกับภาษารูทีเนีย
[3]ในแกรนด์ดัชชีลิทัวเนียเครือจักรภพโปแลนด์-ลิทัวเนียเป็นอาณาจักรที่ก่อตั้งจากอาณาจักรสองแห่งที่มีความสัมพันธ์กันอย่างไม่เป็นทางการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1386 ระบบการปกครองที่มักจะเรียกกันว่า “ประชาธิปไตยของชนชั้นสูง” (Noble's democracy) หรือ “เสรีภาพทอง” ซึ่งเป็นการปกครองโดยเจ้าผู้ครองนครที่ปกครองตามกฎหมายและสภานิติบัญญัติเซย์ม (Sejm) ที่ควบคุมโดยขุนนาง (szlachta) ระบบที่ว่านี้เป็นรากฐานของระบบ
ประชาธิปไตยอย่างกว้าง ๆ ในสมัยใหม่
[4] และระบอบ
ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ[5][6][7] รวมทั้งระบบสหพันธรัฐ
[8] รัฐทั้งสองแต่เดิมมีฐานะเท่ากันอย่างเป็นทางการ แต่ตามความเป็นจริงโปแลนด์มักจะมีอำนาจเหนือกว่า
[9] คริสตจักรโรมันคาทอลิกมีบทบาทสำคัญในกิจการในเครือจักรภพ แต่เครือจักรภพก็ได้ชื่อว่าให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา
[10] แต่เสรีภาพจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับสมัย
[11]เศรษฐกิจส่วนใหญ่มาจากการทำกสิกรรม ในช่วงร้อยปีแรกที่ก่อตั้งถือกันว่าเป็น “ยุคทอง”
[12][13] สำหรับทั้งโปแลนด์และลิทัวเนีย ร้อยปีที่สองเครือจักรภพพ่ายแพ้สงครามและประชาชนกลับกลายเป็นทาสที่ดิน หรือที่รู้จักกันว่าสถานภาพการเป็นทาสครั้งที่สอง
[14]) และในทางการเมืองก็เริ่มเกิดการปฏิวัติล้มล้างระบบ (anarchy) กันมากขึ้น
[7][15] ไม่นานก่อนสิ้นอำนาจเครือจักรภพยอมรับระบบ
รัฐธรรมนูญที่เก่าเป็นที่สองของรัฐธรรมนูญสมัยใหม่
[16]ดัชชีวอร์ซอซึ่งก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1807 มีรากฐานมาจากเครือจักรภพ ขบวนการการปฏิรูปเกิดขึ้นระหว่าง “การปฏิวัติเดือนมกราคม” ระหว่างปี ค.ศ. 1863 ถึงปี ค.ศ. 1864 และในคริสต์ทศวรรษ 1920 โดยความพยายามที่ล้มเหลวในการสร้างสหพันธรัฐ “Międzymorze” (ระหว่างทะเล) ของยูเซฟ ปิวซูตสกี (Józef Piłsudski) ซึ่งถ้าสำเร็จก็จะรวมลิทัวเนียและสาธารณรัฐประชาชนยูเครนเข้าด้วยในปัจจุบันประเทศโปแลนด์ถือว่ามีรากฐานมาจากเครือจักรภพโปแลนด์-ลิทัวเนีย
[17] แต่ประเทศลิทัวเนียซึ่งก่อตั้งใหม่หลัง
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เมื่อเริ่มได้รับอิสรภาพใหม่มองเห็นการรวมตัวเป็นเครือจักรภพในทางลบ
[18], แต่ทัศนคตินี้ก็เปลี่ยนแปลงไปมาก[
ต้องการอ้างอิง]