ปลายพระชนม์ชีพ ของ เจ้าหญิงออกัสตาแห่งเคมบริดจ์

แม้ว่าพระองค์จะทรงดำรงพระชนม์ชีพส่วนใหญ่ในประเทศเยอรมนี แต่แกรนด์ดัชเชสออกัสตายังคงสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระราชวงศ์อังกฤษเป็นอย่างดี ในระหว่างที่ดัชเชสแห่งแคมบริดจ์ พระชนนียังดำรงพระชนม์ชีพอยู่ พระองค์ได้เสด็จเยียมเยียนพระชนนีที่ห้องชุดของพระองค์ในพระราชวังเคนซิงตันอยู่บ่อยครั้ง

หลังการสิ้นพระชนม์ของพระชนนีเมื่อปี พ.ศ. 2432 แกรนด์ดัชเชสทรงได้รับพระตำหนักหลังหนึ่งบริเวณพระทวารของพระราชวังบัคกิงแฮม กรุงลอนดอน ซึ่งพระองค์ได้ประทับอยู่ช่วงหนึ่งของปีจนกระทั่งพระชนม์ที่ชราภาพมากขึ้นทำให้เสด็จต่างประเทศอีกต่อไปไม่ได้

ในการเตรียมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 และ สมเด็จพระราชินีอเล็กซานดรา เมื่อปี พ.ศ. 2445 ดยุคแห่งนอร์โฟล์คได้ปรึกษากับแกรนด์ดัชเชสออกัสตาถึงเรื่องของธรรมเนียมปฏิบัติและการแต่งกาย เนื่องจากเคยทรงเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 4 และ สมเด็จพระราชินีอเดเลด เมื่อเจ็ดสิบเอ็ดปีก่อน ขณะมีพระชนมายุเก้าพรรษา โดยได้ทรงจูบพระหัตถ์ของสมเด็จพระราชินีด้วย นอกจากนี้พระองค์ยังทรงสามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย ซึ่งไม่มีบันทึกที่เป็นลายลักษณ์อักษรเขียนไว้เลย (ซึ่งขณะนั้นมีพระชนมายุสิบหกพรรษา)

แกรนด์ดัชเชสแห่งเม็คเล็นบูร์ก-สเตรลิตซ์ทรงมีความสนิทสนมเป็นพิเศษกับสมเด็จพระราชินีแมรี พระนัดดา แต่ด้วยความชราภาพทำให้มิทรงสามารถร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 (ที่เป็นพระญาติชั้นที่หนึ่งในรุ่นที่สอง) และสมเด็จพระราชินีแมรี เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2454มหาวิหารเวสต์มินส์เตอร์ กรุงลอนดอน

เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 รัฐบาลอังกฤษได้ระงับการจ่ายเงินบำนาญที่พระองค์ทรงได้รับในฐานะสมาชิกของพระราชวงศ์อังกฤษ ในช่วงระหว่างสงครามสถานเอกอัครราชทูตสวีเดนได้ส่งพระราชหัตถเลขาของสมเด็จพระราชินีไปยังพระมาตุจฉาที่ยังคงประทับในประเทศเยอรมนี

เมื่อทรงเป็นสตรีที่อาวุโสสูงขึ้น พระองค์เป็นที่รู้ถึงการชอบทำให้เสียงาน เมื่อเจ้าหญิงม็อดแห่งเวลส์ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์ เจ้าหญิงออกัสตาตรัสว่าได้ทรง"กลายเป็นพระราชินีแห่งราชบัลลังก์ที่มาจากการปฏิวัติแล้ว" อีกทั้งในการเฉลิมฉลองพระราชพิธีพัชราภิเษกของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย เจ้าหญิงตรัสด้วยพระสุรเสียงอันดังว่า "ทำไมพระองค์ถึงทรงขอบคุณพระเจ้ากลางถนน" เนื่องจากสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียประทับอยู่ในรถม้าลากเพื่อทรงรับพรจากพระเจ้า

เจ้าหญิงออกัสตา แกรนด์ดัชเชสพระชนนีแห่งเม็คเล็นบูร์ก-สเตรลิตซ์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2459 ณ เมืองนอยสเตรลิตซ์ และพระศพฝังที่เมืองมิโรว์ ประเทศเยอรมนี เนื่องจากพระองค์เป็นพระราชนัดดาที่ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่เป็นพระองค์สุดท้ายในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร พระองค์ทรงเป็นสายสัมพันธ์สุดท้ายของเชื้อสายอังกฤษในราชวงศ์ฮันโนเฟอร์

ในช่วงการสิ้นพระชนม์ พระองค์มีพระชนมายุ 94 พรรษา 4 เดือน 16 วัน โดยทำให้ทรงเป็นเจ้าหญิงอังกฤษในเชื้อพระวงศ์ที่มีพระชนม์ชีพยืนยาวที่สุดจนกระทั่งเจ้าหญิงอลิซแห่งออลบานี เคานท์เตสแห่งแอธโลน พระราชนัดดาสายพระราชโอรสของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียทรงทำลายสถิติในปี พ.ศ. 2520 โดยสิ้นพระชนม์ในวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2524 ขณะมีพระชนมายุ 97 พรรษา 10 เดือน 9 วัน

ใกล้เคียง

เจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี เจ้าหญิงไอโกะ โทชิโนะมิยะ เจ้าหญิงดิสนีย์ เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร เจ้าหญิงอัตสึ (ละครโทรทัศน์) เจ้าหญิงเฟาซียะห์แห่งอียิปต์ เจ้าหญิงยูริโกะ พระชายาในเจ้าชายทากาฮิโตะ เจ้าหญิงวิกตอเรีย มกุฎราชกุมารีแห่งสวีเดน เจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเวลส์ (ค.ศ. 1796–1817) เจ้าหญิงคาโกะแห่งอากิชิโนะ