สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่_3_แห่งสหราชอาณาจักร
สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่_3_แห่งสหราชอาณาจักร

สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่_3_แห่งสหราชอาณาจักร

พระเจ้าจอร์จที่ 3[1] แห่งสหราชอาณาจักร (อังกฤษ: George III of the United Kingdom; 4 มิถุนายน ค.ศ. 1738 – 29 มกราคม ค.ศ. 1820) เป็นพระมหากษัตริย์ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และราชอาณาจักรไอร์แลนด์สมัยราชวงศ์ฮันโนเฟอร์ ระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 1760 ถึงวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1801 และหลังจากนั้นเป็นพระมหากษัตริย์สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์จนสวรรคตเมื่อวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 1820 ที่พระราชวังวินด์เซอร์ บาร์กเชอร์ สหราชอาณาจักร พระบรมศพอยู่ที่เซนต์จอร์จส์แชเปลที่พระราชวังวินด์เซอร์พระเจ้าจอร์จที่ 3 เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 1738[2] ที่ตำหนักนอร์โฟล์ค กรุงลอนดอน เป็นพระราชโอรสในเจ้าชายเฟรเดอริก เจ้าชายแห่งเวลส์และเจ้าหญิงออกัสตาแห่งซัคเซิน-โกทา ต่อมาทรงได้อภิเษกสมรสกับชาร์ล็อทเทอแห่งเมคเลินบวร์ค-ชเตรลิทซ์ และมีพระราชโอรสธิดาด้วยกัน 15 พระองค์ นอกจะเป็นกษัตริย์แห่งบริเตนใหญ่แล้ว พระองค์ยังมีพระยศเป็นดยุกแห่งเบราน์ชไวค์-ลือเนอบวร์คและผู้คัดเลือกแห่งฮันโนเฟอร์ในจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และต่อมาเป็นกษัตริย์ฮันโนเฟอร์เพราะรัฐผู้คัดเลือกเบราน์ชไวค์-ลือเนอบวร์คได้เลื่อนฐานะขึ้นเป็นราชอาณาจักรฮันโนเฟอร์เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 1814 พระเจ้าจอร์จที่ 3 เป็นกษัตริย์อังกฤษพระองค์ที่สามในราชวงศ์แฮโนเวอร์ และเป็นกษัตริย์ฮันโนเฟอร์องค์แรกของอังกฤษที่พระราชสมภพในราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และตรัสภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่[3] และไม่เคยเสด็จไปเยอรมนีรัชสมัยอันยาวนานของพระเจ้าจอร์จที่ 3 เต็มไปด้วยความขัดแย้งทางทหารหลายครั้งระหว่างราชอาณาจักรของพระองค์และประเทศต่าง ๆ ในยุโรปเกือบทั้งหมด เมื่อต้นรัชสมัยบริเตนใหญ่ได้รับชัยชนะต่อฝรั่งเศสในสงครามเจ็ดปีซึ่งทำให้อังกฤษกลายเป็นประเทศมหาอำนาจของยุโรปผู้มีอิทธิพลในทวีปอเมริกาเหนือและอินเดีย แต่ต่อมาอังกฤษก็สูญเสียอาณานิคมอเมริกาไปกับสงครามปฏิวัติอเมริกัน (American Revolutionary War) ซึ่งเป็นสงครามที่ทำให้เกิดการก่อตั้งสหรัฐอเมริกา ต่อมาราชอาณาจักรก็เข้าไปเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติฝรั่งเศสและสงครามกับจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ที่สิ้นสุดลงด้วยการพ่ายแพ้ของนโปเลียนในปี ค.ศ. 1815 นอกจากนั้นระหว่างรัชสมัยของพระองค์ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และราชอาณาจักรไอร์แลนด์ได้รวมตัวกันเป็นสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์อีกด้วยแต่ต่อมาพระเจ้าจอร์จที่ 3 ทรงเสียพระสติเป็นครั้งคราวและในที่สุดก็เป็นการถาวร พระอาการของพระองค์เป็นปัญหาที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยนั้นงงงวยเพราะไม่ทราบสาเหตุและไม่ทราบวิธีถวายการรักษา แต่ในปัจจุบันเชื่อกันว่าพระอาการต่าง ๆ ตรงกับอาการของโรคพอร์ฟิเรีย (porphyria) ซึ่งเป็นโรคที่อาจจะเกิดจากการที่ร่างกายได้รับสารพิษ การศึกษาเมื่อไม่นานมานี้พบว่ามีสารพิษระดับสูงในเส้นพระเกษาของพระเจ้าจอร์จที่ 3 หลังจากเมื่อพระอาการทรุดลงเป็นครั้งสุดท้ายจนทรงไม่สามารถปกครองประเทศได้เมื่อปี ค.ศ. 1810 เจ้าชายจอร์จ เจ้าชายแห่งเวลส์จึงทรงปกครองราชอาณาจักรในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เมื่อพระเจ้าจอร์จที่ 3 สวรรคต เจ้าชายแห่งเวลส์จึงขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าจอร์จที่ 4 แห่งสหราชอาณาจักร การวิจัยทางพระราชประวัติพระเจ้าจอร์จที่ 3 เปลี่ยนแปลงภาพพจน์ของพระองค์ตลอดมา ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุมาจากการศึกษาจากเอกสารอ้างอิงที่ไม่เป็นธรรมต่อพระองค์[4]

สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่_3_แห่งสหราชอาณาจักร

ราชวงศ์ ราชวงศ์ฮันโนเฟอร์
ก่อนหน้า จอร์จที่ 2
ครองราชย์ 25 ตุลาคม 1760 – 29 มกราคม 1820
(700159000000000000059 ปี 7002116000000000000116 วัน)
พระราชบุตรรายละเอียด
ลายพระอภิไธย
พระราชมารดา เจ้าหญิงออกัสตาแห่งซัคเซิน-โกทา
พระราชบิดา เจ้าชายเฟรเดอริก เจ้าชายแห่งเวลส์
ราชาภิเษก 22 กันยายน 1761
พระนามเต็ม
พระนามเต็ม
จอร์จ วิลเลียม เฟรเดอริก
สวรรคต 29 มกราคม ค.ศ. 1820 (81 ปี)
ปราสาทวินด์เซอร์, ลอนดอน
ถัดไป จอร์จที่ 4
ประสูติ 4 มิถุนายน ค.ศ. 1738(1738-06-04)
พระราชวังเซนต์เจมส์, ลอนดอน
คู่อภิเษก ชาร์ล็อทเทอแห่งเมคเลินบวร์ค-ชเตรลิทซ์

ใกล้เคียง

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต